กังวาล ทองเนตร

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่คลังปัญญา Pohthaiblogspot.com

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เตรียมพร้อมก่อนเรียนราม




เรียนรามได้มากกว่าที่คิด

สวัสดีครับ เพื่อนพ้องน้องพี่ ที่กำลังตัดสินใจจะเข้าเป็น ลูกสาว ลูกชาย คนใหม่ของพ่อขุน ในฐานะรุ่นพี่
ขอแนะนำน้องๆให้ทำความเข้าใจ ศัพท์แสงต่างๆ ในรั้วพ่อขุนของเรา และรายละเอียดต่างๆให้เข้าใจดังนี้ครับ

การเรียนที่รามคำแหง จะมีนักศึกษาอยู่ 2 ประเภทครับ


  1. นักศึกษาภาคปกติ หมายถึงนักศึกษาที่ได้สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.6 ) มาแล้ว
  2. นักศึกษา Pre-Degree หรือ Non-Degree หมายถึงนักศึกษาที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาในระดับ ม.ปลายมา แต่ สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือ ม.3 มาแล้ว
ทั้งสองประเภทนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร


  • นักศึกษาทั้ง 2 ประเภท ได้เรียนในห้องเรียน และมีสิทธิในการลงทะเบียนเรียน-สอบ-สอบซ่อม เก็บสะสมคะแนน ( หน่วยกิต )เหมือนกันทุกอย่าง

ข้อแตกต่างคือ

  • นักศึกษา ปกติ จะได้รับการชำระค่าหน่วยการเรียนหรือหน่วยกิตที่ถูกกว่า คือ หน่วยกิตละ 25 บาทและเมื่อสอบได้ครบกระบวนวิชาตามโครงสร้างของหลักสูตร จะได้เข้ารับพระราชทาน ปริญญาบัตร
  • นักศึกษา ปรีดีกรี ( Pre-Degree ) จะจ่ายค่าหน่วยกิตที่แพงกว่า คือ 50 บาท/หน่วยกิต 
  • เนื่องจากระบบปรีดีกรีนี้ ทาง ม.รามได้เปิดหลักสูตรขึ้นมาเพื่อให้โอกาส กับผู้ที่สำเร็จการศึกษา ระดับ ม.ต้น ได้มีสิทธิในการเข้าเรียนก่อนจบการศึกษาระดับ ม.ปลาย
  • กล่าวคือ เมื่อจบ ม.3 แล้ว สามารถนำวุฒิ ม.3 ไปสมัครเรียนรามได้ ในระบบ ปรีดีกรีนี้ สามารถลงทะเบียนเรียนได้เหมือนนักศึกษาภาคปกติทุกอย่าง และสะสมหน่วยการเรียนที่สอบผ่านไปแล้วไว้ได้ ควบคู่กับการเรียน ม.6 ไปด้วย ( เรียน 2 ทาง ) คือเรียน ม.6 ควบคู่กับเรียน ป.ตรี ที่รามไปพร้อมกัน
  • วิธีนี้จะทำให้น้องๆที่เข้าเรียนระบบนี้จบการศึกษาได้เร็วกว่า และรับปริญญาบัตรได้เร็วกว่า คนที่ต้องรอให้จบ ม.6 ก่อน
  • ต่อเมื่อนักศึกษา ได้สำเร็จการศึกษาในระดับ มัธยมปีที่ 6  ( ม.6 ) แล้ว ให้นักศึกษา ไปลาออกจากระบบ ปรีดีกรี และนำวุฒิ ม.6 ไปสมัครใหม่เพื่อเป็นนักศึกษาภาคปกติ
  • ขั้นตอนนี้สามารถทำได้ภายในวันเดียวกัน คือเมื่อ น้องๆได้วุฒิ ม.6 มาแล้วหรือสำเนารับรองการจบการศึกษา ที่มีวัน เดือนปี ถูกต้อง ให้น้องๆไปลาออก ที่อาคาร ส.ว.ป.ชั้น 2 ( ให้ไปลาออกในช่วงที่ ม.ราม กำลังเปิดรับนักศึกษาใหม่ ) เช่น ม.รามรับนักศึกษาใหม่ในช่วง วันที่ 3-6 พฤศจิกายน ก็ให้น้องเตรียมเอกสารในการสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ให้พร้อม
  • จากนั้นไปลาออกจาก ปรีดีกรี ที่อาคาร ส.ว.ป.ชั้น2 และนำเอกสารการลาออกจากนักศึกษาปรีดีกรีนี้ ไปเป็นเอกสารยืนยันการสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ในวันนั้นเลย
น้องๆก็จะได้เป็นนักศึกษารามภาคปกติเต็มตัว และเสียค่าหน่วยกิตที่ปกติตามเดิมคือ 25 บาท/หน่วย
  • ส่วนหน่วยการเรียนที่น้องสะสมมาได้ตั้งแต่เรียน ปรีดีกรี ก็ให้นำไปโอนเข้าไปสู่ภาคปกติ ได้ทั้งหมด เช่นน้องเรียนสะสมหน่วยกิตมาได้ 120 หน่วยกิต ก่อนลาออก และสมัครเรียนเข้า ม.6 ก็นำไปเทียบโอนในวันสมัครนี้เลย หรือ หลังจากสมัครก็ได้ ทั้ง 120หน่วยกิตที่น้องสอบผ่านได้ เสียค่าเทียบโอน หน่วยกิตละ 50 บาทเท่าที่เราเรียนมาตอนเป็นปรีดีกรี
  • เมื่อน้องเทียบโอนเสร็จ เกรด ทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ และน้องสามารถลงทะเบียนเรียนต่อในกระบวนวิชาที่เหลือได้เลย เช่น นิติศาสตร์ จบที่ 144 หน่วยกิต 
ตอนเรียนปรีดีกรี น้องสอบได้แล้ว 120 หน่วยกิต เหลืออีก 24 หน่วยกิต น้องสามารถลงทะเบียนเรียนทั้งหมด 24 หน่วยกิต และกาหัวว่าขอจบการศึกษาได้เลย

  • นี่คือประโยชน์ของปรีดีกรี ที่น้องสามารถจบได้ก่อน ถ้าน้องเรียนเก่งมีความตั้งใจน้องสามารถ จบได้ในเวลา 2 ปีครึ่ง โดยลงทะเบียนเรียนภาคปกติ 4 ภาค และภาคฤดูร้อน 2 ภาค ก็จบแล้ว ใน 2 ปีครึ่ง โดยที่น้องยังไม่จบ ม.6 ด้วยซ้ำ น้องก้รอจบ ม.6 แล้วไปลาออกจากปรีดีกรี สมัครใหม่เป็นภาคปกติเทียบโอน ก็เข้ารับปริญญาได้เลย 
  • ในขณะที่เพื่อนน้องไม่ได้เรียนก็เพิ่งจะไปหาที่เรียนส่วนน้องอายุ 18 เท่ากันรับ ป.ตรี แล้ว และกำลังเข้าทำงาน หรือกำลังเรียน ป.โท เห็นหรือยังว่า ระบบนี้เป็นการเปิดโอกาสอย่างมหาศาลที่เราต้องรีบคว้า งานมันมีน้อย จบก่อนทำงานก่อน เรียนโทก่อน ก้าวหน้ากว่ากันเยอะครับ
เปลวเทียนให้แสงรามคำแหงให้ทาง

เอกสารที่ใช้สมัคร

  1. ใบสมัครและใบขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา ( ม.ร.2 )กรอกชื่อ ติดรูปให้เรียบร้อย รูปถ่ายขนาด 2นิ้วเท่านั้น ทากาวและติดที่กรอบ
  2. ใบสำเนาวุฒิการศึกษา 2 ฉบับ ( ม.6 สำหรับภาคปกติ ม.3 สำหรับปรีดีกรี )
  3. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อ สกุล ผู้สมัคร 2 ฉบับ
  4. สำเนาบัตรประชาชน 3 ฉบับ
  5. ใบรับรองแพทย์ 1ฉบับ  (ไปรับที่รามได้ )
  6. แบบฟอร์มขอเปิดบัญชีธนาคารทหารไทย (เพื่อน้องจะได้ใช้บัตร ธนาคารเป็นทั้งบัตรนักศึกษาและบัตร เอทีเอ็ม เปิดบัญชี 100 บาท)
  7. คู่มือแนะนำการกรอกและให้ใช้ดินสอ 2บี ขึ้นไประบาย ระเบียนประวัตินี้ให้ครบและถูกต้อง ( ม.ร.25 )และแผ่นสีเขียวที่มาพร้อม ชุดใบสมัครที่น้องซื้อตอนแรก ( ถ้าน้องไปสมัครที่รามจะมีรุ่นพีคอยแนะนำตามจุดต่างๆสามารถถามพี่เราได้)
  8. ใบสมัครสมาชิกข่าวราม  (เพื่อเป็นช่องทางแจ้งข่าวการเรียนการสอนการสอบในแต่ละภาคการศึกษาให้น้องได้รับรู้ )
  • หมายเหตุ เวลากรอกใบสมัคร (ม.ร.2 ) ให้น้อง กากบาท ในช่อง เรียนรายกระบวนวิชา Pre- Degree เท่านั้น ไม่ต้องกากบาทในช่องบนที่ระบุคณะนะครับ ช่องนั้นสำหรับผู้ที่จบ ม.6แล้วเท่านั้น อย่าลืมนะครับ ดูให้ดี

ศัพท์แสงที่น้องควรเรียนรู้


เช่น PS110  M0830-1110 BNB801 M20 OCT.2013 B หรือ A

ความหมายคือ

  •  PS เป็นรหัสวิชา ของคณะรัฐศาสตร์ 110 คือชั้นปีนักศึกษา ปี 1และเป็นระหัสวิชาใช้ลงทะเบียนเรียน PS110 ชื่อวิชาคือ การเมืองการปกครองไทย เป็นต้น
  • M0830-1110  หมายถึง เรียนในวันจันทร์ ( M=Monday ) เวลาเรียน 08:30-11:10 น.
  • BNB801  หมายถึง อาคารเรียน  BNB  ( BangNa Build  ) 801 คือห้องเรียน ของอาคารเรียนนี้ อยู่ที่รามฯ2
  • M20 OCT.2013B  หมายถึงวันสอบของวิชานี้ คือถ้าน้องเลือกลงทะเบียนเรียนวิชานี้ น้องจะสอบในวันจันทร์ ที่ 20 เดือนตุลาคม 2013 ส่วนB สอบคาบบ่าย Aหมายถึงสอบคาบเช้า ส่วนเวลาที่ชัดเจนทางรามจะแจ้งในตารางสอบส่วนบุคคลอีกครั้งก่อนสอบ 1 สัปดาห์ น้องต้องไปรับตารางสอบนะครับเพราะจะระบุเวลา ที่นั่งสอบเลขที่สอบในนั้นซึ่งเราต้องใช้กรอกในใบคำตอบของเรา

รวมความทั้งหมดมีดังนี้

วิชา PS110 เรียนเวลา 8.30-11.10 น.ที่ห้อง 801 อาคาร BNBและสอบในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2013 คาบบ่าย

  • ถ้าน้องเจอในตัวอื่นๆ ก็เหมือนกันครับจำแบบนี้ไปได้เลย เปลี่ยนเฉพาะ รหัสวิชา เวลาเรียนเวลาสอบ คาบเช้าหรือบ่ายเท่านั้นเอง
  • เมื่อน้องรู้อย่างนี้ก็จะจัดการบริหารเวลาของตัวเองได้ว่า วิชาไหน เรียน วันเวลาไหน สอบเวลาไหน
  • ก็ทำให้เราเลือกลงทะเบียนไม่ซ้ำกันกับที่สอบอยู่ ม.6 หรือลงซ้ำกับวิชาอื่น

  • ปกติถ้าน้องลงทะเบียนเรียนถูกจะไม่สอบเวลาตรงกันหรือใกล้กันครับ
  • ดังนั้นน้องต้องลงทะเบียนให้ถูกต้องในคู่มือ ตามสาขาและคณะที่น้องเลือกเรียน

  • และนักศึกษา ปี 1 ต้องลงทะเบียนเรียนในรหัส 1 ขึ้นต้นเท่านั้นครับ เทอมแรกกับเทอม 2 จะเป็นการเรียนปูพื้นฐานวิชาทั่วไปของแทบทุกคณะมาเรียนในปี1 ดูคู่มือให้เข้าใจครับ

  • ปี 1.ต้องเรียนที่รามฯ2 เท่านั้นครับ จำไว้เลย รามฯ2 คือบ้านหลังแรกของเราลูกพ่อขุนทุกคน ที่นี่บรรยากาศดีเหมาะแก่การเรียนไม่วุ่นวายเหมือนราม ฯ1
ส่วนเวลาสอบจะสอบทั้งราม 1และราม 2

อาคารเรียนที่รามฯ2 จะมีดังนี้ครับ 
  • BNB 1-11 ( BNB มี 11 อาคาร )
  •  KTB (อาคารคนที)
  • PBB ( อาคารพระบาง)
  • PRB ทั้งหมดนี้อยู่ที่ราม 2 ครับ


นอกเหนือจากนี้ราม 1 ทั้งหมด

  • เช่น ส.ว.ป. อาคารนี้น้องต้องจำเพราะเราจะใชบ่อยติดต่อ เช็คเกรด สมัคร ลาออก ทุกอย่างอยู่ที่อาคารนี้
VPB,KLB,VKB,SBB ฯลฯ พวกนี้อยู่รามฯ1 ทั้งหมด

  • พอน้องลงทะเบียนเรียนในวิชาพื้นฐาน รหัส 1 ผ่านหมด น้องก็จะลงทะเบีนยเรียน รหัส 2 เช่น PA220 พวกนี้เรียกว่า รหัส 2 เป็นของนักศึกษาปี2 ใช้ลงทะเบียนเรียน รหัส 3 รหัส 4 ไปเรื่อยจนจบหลักสูตร
  • อย่าลงทะเบียนข้ามคณะนอกหลักสูตรนะครับ ดูว่าเราสมัครลงคณะอะไร สาขาอะไร เพราะแต่ละคณะจะมีสาขาแตกออกไปน้องต้องตัดสินใจให้ดีให้เหมาะกับเรา
  • ส่วนน้องนักศึกษาปรีดีกรี จะยังไม่มีรหัสคณะครับ รหัสจะเป็น 0 แต่ให้เราเลือกลงกระบวนวิชาที่เป็นโครงสร้างของสายนั้นทั้งหมด

เช่นเราเลือกเรียน คณะรัฐศาสตร์

คณะรัฐศาสตร์ ก็จะแบ่งออกเป็น 3 ภาควิชาหรือ 3แผน ( Plan) การเรียน

  • แผน A คือ ภาควิชาการปกครอง รหัสวิชาเรียนบังคับของเราคือ PS แผนนี้จบไปก็ไปสอบสายปกครองครับเริ่มจาก ปลัดอำเภอแผนนี้เป็นแผนใหญ่หนักไปทาง การจัดรูปออกแบบโครงสร้างการปกครอง ทฤษฎีการปกครอง เป็นหลักเลย ยากสุดในสายรัฐศาสตร์ ถ้าไหวเรียนเลยครับ ถ้าไม่ไหวเลือกแผนอื่นจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง ข้อสอบสายนี้ เป็นอัตนัย มากโดยเฉพาะวิชาแกน วิชาบังคับเป็นอัตนัยครับ
  • แผน B คือ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พวกนี้จบไปก็ไปสอบทางการฑูตครับ รหัส PSเช่นกันแต่เนื้อหาหนักไปทางการฑูตครับ แผนนี้เรียนแล้วจะเก่งภาษาครับ
  • แผน C คือ การบริหารรัฐกิจ รหัส PAสายนี้เมื่อจบ ส่วนใหญ่ถ้าทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลตามบริษัทห้างร้านก็จะเป็นนักรัฐศาสตร์สายนี้ครับ เพราะเขาเรียนการจัดรูปองค์กร การบริหารงานส่วนบุคคลเป็นหลัก 

  • ส่วนใหญ่น้องๆที่สมัครรัฐศาสตร์ใหม่ๆมักเลือกแผน A แต่พอถึงปี 2 ย้ายไปแผน C กันหมดเพราะเริ่มเจอข้อสอบอัตนัย ตัวแรกเลยที่น้องจะเจอคือ การปกครองส่วนภูมิภาค PS205 วิชานี้รับน้อง แผน A เป็นด่านแรกเลย สู้นะครับคนอื่นจบได้เราก็จบได้
  • เมื่อเราเลือกคณะและเลือกสายแล้วก็ให้เลือกวิชาในกระบวนโครงสร้างของสายนั้นๆให้ถูกต้องลงทะเบียนครับ



คณะที่เปิดสอนที่ ม.ราม

  1. คณะนิติศาสตร์  รหัสประจำคณะ 0100
  2. คณะบริหารธุรกิจ เปิดสอน 10 สาขา  รหัส 02...
  3. คณะมนุษยศาตร์  เปิดสอน 12 สาขาภาควิชา รหัสคณะ 03..
  4. คณะศึกษาศาสตร์   21 สาขา จิตวิทยา 5 สาขา และสาขาวิชาภูมิศาสตร์อีก 3สาขาวิชา ทั้งหมดรวมอยู่ในคณะศึกษาศาสตร์ รหัสคณะ 04..
  5. คณะวิทยาศาสตร์  เปิดสอน 14 สาขาวิชา รหัสคณะ 05..
  6. คณะรัฐศาสตร์  เปิดสอน 3 สาขา (แผน A,B,C ) รหัสคณะ 0601 ทั้ง 3 แผน และเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกแผนคือ สาขาบริหารงานยุติธรรม รหัสสาขา 0602
  7. คณะเศรษฐศาสตร์  รหัสคณะ 0700 ทุกสาขา
  8. เทคโนโลยีการสื่อสารมวลชน สาขาวิชาสื่อสารบูรณาการ รหัสสาขาวิชา 5406 และสาขาวิชาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ รหัสสาขา 5407
  9. คณะศิลปกรรมศาสตร์ เปิดสอน 4 สาขา คือ นาฎศิลป์ไทย/ดนตรีไทย/ดนตรีไทยสมัยนิยม วิชาเอกลูกกรุง/ดนตรีไทยสมัยนิยม วิชาเอก ลูกทุ่ง รหัสสาขา 55..
  10. Pre-Degree เรียนก่อนที่จะจบ ม.6 เพื่อเก็บสะสมหน่วยกิต และนำไปเทียบโอนเมื่อจบ ม.6 ตามที่ได้อธิบายไปแล้วแต่ข้างต้น ยังไม่มีรหัสคณะ ใช้ 9000 เหมือนกันทั้งหมด จนกว่าจะจบ ม.6 และลาออกจากปรีดีกรี และสมัครใหม่เป็นนักศึกษาภาคปกติ ตามคณะที่เราเลือกเรียนไว้แล้วตอนปรีดีกรี ก็จะ บ่งเลขคณะ เป็นไปตามนั้น เช่นตอนปรีดีกรี เลือกเรียนรัฐศาสตร์ เมื่อจบ ม.6 และลาออกจากปรีดีกรีแล้วนำวุฒิ ม.6 มาสมัครเป็นนักศึกษาใหม่เข้าคณะรัฐศาสตร์เหมือนที่เรียนปรีดีกรี เลขรหัสคณะก็จะเป็น 0601 หรือ 0602 ตามที่เราเลือกไว้แล้วสมัยเรียนปรีดีกรี


อัพเดพ อัตราค่าใช้จ่ายใหม่ล่าสุด

**ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเมื่อแรกสมัครเรียน ปริญญาตรี( ภาคปกติ หรือจบ ม.6 แล้ว ) มีดังนี้**
  1. ค่าลงทะเบียนเรียนเป็นรายหน่วยกิตๆละ                      25 บาท หนึ่งภาคเรียนลงได้ 24 หน่วยกิต ก็ใช้ 24 x 25 =... หรือเราจะลงทะเบียนเรียนน้อยกว่านี้ก็ได้ แต่จบช้าครับ พี่ก้องแนะนำรีบเรียนรีบจบ อย่าอยู่รอเป็นปู่-ย่า ที่รามเลยครับ
  2. ค่าบัตรประจำตัวนักศึกษา                                            60  บาท
  3. ค่าธรรมเนียมแรกเข้าเป็นนักศึกษา                              900  บาท
  4. ค่าขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา                                           800  บาท
  5. ค่าสมาชิกหนังสือพิมพ์ข่าวราม/ภาคเรียน                   100 บาท
  6. ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย                                                      500 บาท
  7. ค่าเทียบโอนหน่วยกิต จาก ม.ราม                  50 บาททุกกรณี

                    ค่าเทียบโอนอนุปริญญาจากสถาบันอื่น หน่วยกิตละ  100 บาท

  • รวมเบ็ดเสร็จ สำหรับผู้ลงทะเบียนเต็ม  24 หน่วยกิต  จ่ายทั้งหมด   2,960 บาท
  • ที่เหลือลดหลั่นไปตามที่น้องลงทะเบียนเรียนว่ากี่หน่วยกิต
  • ยกเว้นปรีดีกรี ตัวคูณต้องเป็น 50 บาทนะครับ เพราะน้องได้โอกาสเรียนก่อนเขาจบก่อนเขา
**ค่าใช้จ่ายสำหรับน้องที่จบ ม.3 และกำลังเรียนต่อ ม.ปลาย จะสมัครเรียน ระบบปรีดีกรีมีดังนี้*

  • ค่าลงทะเบียนรายวิชา หน่วยกิตละ             50 บาท
  • ค่าบำรุง                                                           300 บาท
  • ค่าธรรมเนียมแรกเข้าเป็นนักศึกษา             500 บาท
  • ค่าบัตรนักศึกษา                                                60 บาท
  • ค่าขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา                          300 บาท
  • ค่าสมาชิกข่าวราม/เทอม                                100 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้นเมื่อสมัครเรียนครั้งแรกจำนวน     2,460 บาท สำหรับการลงทะเบียน 24 หน่วยกิต และลดหลั่นลงตามจำนวนหน่วยกิตที่น้องลง เช่นกัน


[[ คณะที่ได้รับความนิยม 3 อันดับต้นๆคือ ]]

  1. คณะรัฐศาสตร์
  2. คณะบริหารธุรกิจ
  3. คณะนิติศาสตร์
คณะวิทยาศาสตร์มีแล็ป มีห้องปฎิบัติการพร้อมสรรพครบถ้วนไม่น้อยหน้าสถาบันอื่นๆ

  • คณะที่พี่ก้องแนะนำ สำหรับน้องที่มีเวลาเข้าเรียนเต็มที่ และเหมาะกับน้องที่จบ ม.6 มาแล้วคือคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งคณะวิทยาศาตร์ จะเปิดสอน
  1. สาขาวิชาคณิตศาสตร์
  2. สาขาวิชาสถิติศาสตร์
  3. สาขาวิชาเคมี
  4. สาขาวิชาฟิสิกส์
  5. สาขาวิชาชีวะวิทยา
  6. สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
  7. สาขาวิชาการวิจัยดำเนินการ
  8. สาขาวิชาเทคโนโลยีพัสดุ
  9. สาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร
  10. สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเลคทรอนิคส์
  11. สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ
  12. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
  13. สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร
  14. สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ

สำหรับคณะวิทยาศาสตร์น้องจะต้องมีเวลาเรียน เพราะจะต้องเข้าห้องปฏิบัติการจริง มีการฝึกงาน ทำงานส่ง สัมมนา ด้วย ซึ่งจะทำให้น้องได้เป็นนักวิทยาศาสตร์อย่างมีคุณภาพเมื่อน้องจบออกไปรับใช้สังคม

อีกทั้งการเรียนคณะวิทยาศาสตร์ที่ สถาบันอื่น จะมีค่าลงทะเบียนเรียนที่แพงมาก แต่ที่รามของเรา ยังคงเอกลักษณ์ของรามเสมอมาและตลอดไป น้องต้องตัดสินใจว่า จะเรียนที่ค่าเทอมแพงหรือ เรียนที่ค่าเรียนถูก แต่ศักดิ์และสิทธิ์ แห่งปริญญาบัตรเท่ากัน และรับค่าแรงตามกฎหมายแรงงานที่เท่ากันเมื่อจบใหม่ แถมน้องไม่ต้องเครียดว่าจะถูกดรอปเรียนกลางทางเพราะไม่มีค่าเล่าเรียน

หลักการเรียนต้องมีเป้าหมายในอนาคต

  • น้องจำไว้ว่า ถ้าน้องเลือกคณะที่เรียนง่าย ก็หมายความว่า คนอื่นก็เรียนได้ด้วย เมื่อคนอื่นก็เรียนได้ ก็หมายความว่า ในแต่ละปี มีบัณฑิต คณะนั้นๆจบออกมาจำนวนมาก เมื่อมีคนจบจำนวนมาก ก็หมายถึงการแย่งกันทำงาน ซึ่งตำแหน่งงานมีอยู่อย่างจำกัด
  • ดังนั้น น้องต้องท่องไว้เสมอว่า เรียนง่าย ก็หางาน ยาก แต่ถ้าน้องเรียนยาก ก็จะหางานง่าย เพราะเรียนยาก คนเรียนน้อย และจบน้อย เมื่อจบน้อยแต่ความต้องการในตลาดแรงงานจึงมีมาก จึงประกันว่าน้องจบแล้วมีงานทำ และอีกกรณี ในคณะที่มีการฝึกงานจริง นั้นก็คือ การที่น้องได้มีโอกาสไปแสดงความสามารถให้นายจ้างเห็นไปในตัว น้องจงทำให้เต็มความสามารถ เพราะไม่แน่ว่า ที่ที่น้องไปฝึกงาน ก็อาจจะเป็นสถานที่ทำงานของน้องในอนาคตที่น้องจบไปก็เป็นได้ จึงขึ้นอยู่กับเป้าหมายน้องว่า จะเรียนเพื่อเป้าหมายในชีวิตอย่างไร

นายแบบจากคณะรัฐศาสตร์มาแนะนำคณะศึกษาศาสตร์


นอกจากนี้ยังมีคณะ เศรษฐศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ ก็เป็นอีก 2 คณะที่ จบแล้วมีอนาคตมีทางไป จึงขึ้นอยู่กับ จริตน้องแต่ละคนว่าตนเอง ถนัด รัก ชอบ หรือวางเป้าหมายชีวิตไว้อย่างไร พี่ก้อง เป็นเพียงผู้ชี้ แนวทางให้เห็นเท่านั้น


คณะศึกษาศาสตร์สำหรับน้องที่ต้องการอยากเป็นครู แม่พิมพ์พ่อพิมพ์ของชาติ


ส่วนการเรียนที่ราม

  • เรามีห้องเรียนใหญ่โตโอ่อ่า ทั้งประจำคณะและเรียนรวม มีจอวงจรปิดถ่ายทอดไปทุกอาคารทุกห้องเรียนขณะที่อาจารย์บรรยาย
  • มีห้องสมุดให้ค้นคว้า ทันสมัย
  • มีศูนย์ปฎิการคอมพิวเตอร์ เรียนหนึ่งคนต่อหนึ่งเครื่อง
  • มีเรียนทาง Electronics เลือกเวลาเรียนและเวลาสอบด้วยตัวเราเอง
  • มีอาจารย์แนะแนว อาจารย์ที่ปรึกษา
  • มีเรียน รด.
  • มีห้องทดลองและปฏิบัติการที่ทันสมัย
  • เพราะรามเราคือมหาวิทยาลัยแบบตลาดวิชา ที่คนเรียนสามารถเลือกหาได้ตามความถนัดของตนเอง เรามีทุกอย่างที่มหาวิทยาลัยปิดมี
  • และเรามีอีกหลายอย่างที่มหาวิทยาลัยปิดไม่มี
  • เรียนวันจันทร์ถึงศุกร์ ( ปกติ)
  • มีบรรยากาศความเป็นพี่น้องที่แสนอบอุ่น
  • มีกลุ่มกิจกรรมให้น้องเลือกได้มากมายตามชอบ
  • มีตำราเรียนที่แสนถูก
  • ค่าเรียนที่แสนถูก
  • ไม่มีคุณภาพจริงไม่มีสิทธิ์สวมครุยวิทยฐานะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ถ้าคุณแน่ใจมีความมุ่งมั่น รามคำแหงให้โอกาสคุณทุกคนทุกเพศ ทุกวัย พิสูจน์ตัวเอง

สิ่งที่น้องพึงรู้ไว้

  • การเรียนที่รามฯ ศักดิ์ศรีแห่งปริญญาบัตร เท่าเทียมกัน เมื่อจบการศึกษาแล้ว รับค่าสแรงขั้นต่ำตามกฎหมายแรงงานเท่ากัน

  • แต่สิ่งที่ มหาวืทยาลัยรามคำแหงให้ได้แต่ที่อื่นให้ไม่ได้คือ ราม ให้โอกาสทางการศึกษา กับคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา อย่างเท่าเทียม เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียน ตามที่ตนเองถนัด รัก ชอบ หรือความใฝ่ฝัน รวมถึง อัตราค่าเล่าเรียนที่ ถูกมาก คือหน่วยกิตละ 25 บาทเท่านั้น สำหรับนักศึกษาปกติ และ หน่วยกิตละ 50 บาท สำหรับนักศึกษารายกระบวนวิชา หรือ Pre-Degree  เพราะเราคือ ตลาดวิชา เตรียมทุกสิ่งพร้อมสรรพ สำหรับผู้ที่แสวงหามาเลือกสิ่งที่เหมาะสมด้วยตนเอง

อาคารสวรรคโลกหรือ SWB เป็นตึกเรียน ตึกสอบอีกอาคารอยู่ที่ราม 1 ข้างตึกคณะวิทยาศาสตร์

ข้อสังเกต และขณะนี้ (25 เม.ย.59 ) ทาง ม.ราม ได้ปรับเปลี่ยนรหัส รายกระบวนวิชาใหม่ ให้น้องๆศึกษาให้เข้าใจให้ดีก่อนลงทะเบียนเรียน เช่น เดิม  PS ก็จะเปลี่ยนเป็น POL ตามด้วยเลขรหัสชั้นปี เช่น POL 1100 ซึ่งเป็นวิชารัฐศาสตร์ทั่วไป รหัสเดิมคือ PS103 มี 3 หน่วยกิตเท่าเดิม
  • พี่น้องของเราออกไปรับใช้สังคมอย่างมีคุณภาพทั้งหน่วยงานทางปกครองของรัฐ ศาล และหน่วยงานเอกชน ภายใต้คำขวัญ เปลวเทียนให้แสงรามคำแหงให้ทาง

หอประชุมพ่อขุน อยู่ที่ราม 1 ใช้เป็นที่รับสมัครนักศึกษาใหม่และใช้ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร



รูปปั้นพ่อขุนศูนย์รวมใจลูกพ่อขุนทุกคน อยู่ที่ลานพ่อขุน ราม 1


ด้านหน้าตึกคณะศึกษาศาสตร์ ราม 1


ตึกคณะนิติศาสตร์ ราม 1


ตึกคณะมนุษย์ศาสตร์ราม 1




สำหรับนักศึกษา กศน.ที่ต้องการกวดวิชา หรือผู้ที่ต้องการเรียนต่อ กศน.

..............................................................................................................................................................
เว็บไซต์ ม.ราม >>> http://www.ru.ac.th/

>>>> เช็คตารางสอบรายบุคคล (ก่อนสอบหนึ่งสัปดาห์ ที่นี่ ) <<<<

>>>> ตาราง ม.ร. 30 <<<<
>>> การรับนักศึกษาใหม่ 
>>>> ตรวจผลสอบนักศึกษาปริญญาตรีที่นี่<<< (ระบบเก่า)
>>> ตรวจผลสอบนักศึกษาปริญญาตรี (ระบบใหม่ ต้องใส่รหัสผ่าน)

>>>> ตรวจผลสอบนักศึกษษปริญญาโทที่นี่

>>> สมัครสมาชิกเว็บราม <<<  (สมัครตรงนี้ก่อนค่อยเข้าเช็คเกรดระบบใหม่ )

..................................................................................................................................................................

ขอให้น้องโชคดีและประสบความสำเร็จทุกคน

กังวาล ทองเนตร ( พี่ก้อง ) รัฐศาสตร์ ภาควิชาการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
คอมพิวเตอร์-กราฟฟิคดีไซน์-มัลติมิเดียส์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง



51 ความคิดเห็น:

  1. วิธีการเรียนที่รามให้จบไว

    ตอบลบ
  2. การเรียนที่รามให้จบเร็ว
    http://lawram.blogspot.com/2010/10/blog-post_6920.html

    ตอบลบ
  3. มีคอมกราฟิกด้วยหรอคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. มีครับ แต่ไม่ใช่หลักสูตรที่เปิดสอนปกติ เป็นหลักสูตรพิเศษ เหมือนสอนภาษานั่นเองครับ เรียนคอมฯตั้งแต่พื้นฐานการใช้โปรแกรมออฟฟิศ กราฟิก มัลติมิเดียส์ เป็นหลักสูตรพิเศษที่สอนโดยคณาจารย์จากศูนย์อบรมคอมพิวเตอร์ สถาบันคอมพิวเตอร์ ของ ม.รามเองครับ ถ้าเรียนโปรแกรมออฟฟิศ เมื่อเรียนจบและสอบผ่าน ทาง ม.ราม จะนำวิชานี้ลงในทรานสคริป โดยอัตโนมัติเมื่อเราเรียนจบครับ ส่วน กราฟิกและมัลติมิเดียส์ เมื่อเรียนจบสอบผ่าน ทางสถาบันจะออกใบประกาศให้เราต่างหากครับ เป็นของ ม.รามเหมือนกันครับ เขาแบ่งย่อยเป็นหลักสูตร ห้องเรียนติดแอร์ โอ่อ่า เรียนหนึ่งคนต่อคอมหนึ่งเครื่อง สถานที่เรียนอยู่ที่ สถาบันคอมพิวเตอร์ ใน ม.รามครับ ตั้งอยู่ด้านข้าง อาคารคณะเศรษฐศาสตร์ อยู่ฝั่งตลาดหัวหมากครับ มีเรียนรอบเช้า รอบบ่าย 7 วันครับเลือกวันเวลาเรียนได้ ใช้สิทธิการเป็นนักศึกษารามจะได้ค่าเรียนที่ถูกมากครับ อย่าลืมไปเก็บเกี่ยวเอานะครับ รามเรามีทุกอย่าง ขอให้เราแสวงหาก็พอ หรืออยากเรียนภาษา โดยเฉพาะก็มีที่รามครับ โดย อาจารย์ของรามเองและผู้เชี่ยวชาญที่จ้างมาพิเศษจากข้างนอก

      ลบ
    2. ดีจังค่ะจบปวช.กราฟิกมาพอดี / ว่าแต่ต้องสมัครเรียนหลักสูตรปกติก่อน แล้วถึงไปสมัครหลักสูตรพิเศษเพิ่มใช่ไหมคะ

      ลบ
  4. กราฟิกที่รามต้องสมัครเรียนหลักสูตรปกติก่อนแล้วถึงไปสมัครหลักสูตรพิเศษเพิ่มใช่มั้ยคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าใช้สถานะการเป็นนักศึกษาราม จะได้ค่าเรียนที่ถูกกว่าครับ แต่รามเขาก้เปิดโอกาสให้คนนอกด้วยครับแต่ค่าเรียนสูงกว่านักศึกษาครับ แต่เขามีเงื่อนไขว่า จะเรียนกราฟฟิกได้ต้อง มีพื้นฐานการใช้คอม โปรแกรมออฟฟิศพื้นฐานก่อน เราสามารถเลือกวันเวลาเรียนได้ครับ เช่นเราว่าง วันพุธ รอบเช้า เราก็ไปสมัครเรียนรอบวันพุธตอนเช้า จนกว่าจะจบหลักสูตร หรือวันอื่นๆที่เราว่าง ก็จะเป้นแบบเดียวกันครับ คือเลือกเวลาไหนวันไหนก็ต้องเรียนตามนั้นจนกว่าจะจบ

      ลบ
  5. ค่าหน่วยกิตประมาณเท่าไหร่คะ หลักสูตรพิเศษนี้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เขาคิดเป็นคอสครับ ตอนผมเรียนจำได้ว่า 300 หรือ 500 ไม่แน่ใจครับ แต่ก้อยู่หลักร้อยครับตามเอกลักษณ์ของรามเรา ถูก ดี มีคุณภาพ

      ลบ
    2. ว้าวววว อย่างนี้ต้องลงเรียนแน่ ๆค่ะ ติดต่อลงเรียนคอมกราฟิกเพิ่มได้ที่จุดไหนคะ

      ลบ
    3. ติดตามได้จากข่าวรามนะครับหรือ ไปที่ศูนย์วิชาการคอมพิวเตอร์ ม.ราม ด้านข้างตึกคณะเศรษฐศาสตร์ครับ เขาจะมีเรียนเป็นกลุ่ม วัน เวลา แล้วแต่เราสะดวกครับ

      ลบ
    4. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ8 เมษายน 2557 เวลา 16:41

    ขอถามหน่อยคะ หนูเคยลงเรียนแบบปรีดีกรีมา1เทอม สอบผ่านหมด แต่ตอนนี้หยุดเรียนยาวๆมา2ปีแล้ว เพราะคลอดบุตร แต่ไม่ได้จ่ายค่ารักษาสภาพ น.ศ.ไว้ ตอนนี้มีวุติ ม.6 แล้ว
    อยากถามว่า จะเทียบโอนหน่วยกิจได้มั้ยคะ หรือว่าต้องเรียนใหม่ทั้งหมด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมจำตัวเลขแน่นอนไม่ได้นะครับว่า การสิ้นสภาพนักศึกษา ต้องใช้เวลา 8 ปี หรือไม่ แต่ก็มีประเด็นเรื่องการลงทะเบียนเรียนที่เขากำหนดว่า ถ้าไม่ลงทะเบียนเรียนติดต่อกัน 2 เทอม หรือ 4 เทอม ไม่แน่ใจครับ รู้สึกว่าต้องไปติดต่อขอจ่ายเงินรักาาสถานภาพไว้ ( พอดีข้อมูลตรงนี้ที่ผมเคยมีอยู่มันหายไปครับ ขอโทษที ) แต่ผมแนะนำให้ไปสอบถามที่อาคาร ส.ว.ป. ได้ครับ หรือเข้าเว็บรามครับ www.ru.ac.th ได้ครับ แต่กรณีนี้ถ้าสถานะภาพปรีดีกรีเรายังคงอยู่ก็ต้องขอลาออกก่อนอีกครั้งนะครับเพื่อสมัครเป็นนักศึกษาปกติใช้วุฒิ ม.6 ลาออกและสมัครใหม่ภายในวันเดียวกันได้ครับ ( ในวันที่เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ )

      ลบ
  7. แล้วเรียนคณะศึกษาศาสตร์มีเรียนภาคฤดูร้อนไหมคะ สำหนับนักศึกษา ปรี-ดีกรีอะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ที่รามมีสอนภาคฤดูร้อนทุกคณะเลยครับ ลงทะเบียนเรียนได้ 18 หน่วยกิตต่อเทอมครับสำหรับ เรียนปกติ แต่สำหรับผู้จะขอจบก็สามารถลงได้มากกว่านี้ครับ

      ลบ
  8. ท่าสนใจเรีบนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ธุรกิจควรเลือกสาขาไหนค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมไม่แน่ใจนะครับ ระหว่างบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ ลองไปสอบถามโครงสร้างหลักสูตรดูอีกทีครับ

      ลบ
  9. ภาคฤดูร้อน​ลงได้กี่หน่วยคะ​ ถ้าไม่ได้ขอจบคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ภาคฤดูร้อนลงได้ 18 หน่วยกิตครับ ถ้าไม่ได้ขอจบ

      ลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ6 ธันวาคม 2557 เวลา 20:03

    จบ ปวส.ต่อได้ไหมค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ได้ครับ แต่ต้องตามเงื่อนไขของ ม.รามนะครับ มีระเบียบนิดหน่อยครับ อย่าให้เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของเราครับ

      ลบ
  11. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  12. คณะวิทย์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.ราม มีเสื้อช้อปไมค่ะ แล้วสีอะไร ??

    ตอบลบ
  13. รบกวนตอบให้หน่อยนะค่ะ พอดีอยากไปเรียน

    ตอบลบ
  14. รบกวนตอบให้หน่อยนะค่ะ พอดีอยากไปเรียน

    ตอบลบ
  15. คณะวิทย์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.ราม มีเสื้อช้อปไมค่ะ แล้วสีอะไร ??

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรื่องเสื้อนี่ผมไม่แน่ใจนะครับ ต้องขออภัยจริงๆ

      ลบ
  16. คณะรัฐศาสตร์เลือกแผนได้ตอนไหนอะค่ะ คือจะสมัครในเน็ตแต่ในเน็ตเขียนว่าทุกแผนอะค่ะ

    ตอบลบ
  17. รามมีเรียนกี่เทอมค่ะ ปี1นี่ลงได้กี่หน่วยกิจอะค่ะหรือตามที่เขากำหนด วิชาที่เปิดให้ลงทะเบียน แล้วรัฐศาสตร์แผนCยากไหมค่ะ คือหนูจะเรียนควบไปกับปวส.

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ปีการศึกษาของราม มีภาคปกติ 2 เทอมครับ บวกด้วยสอบซ่อมแก้ตัว 2 ครั้งเช่นเดียวกัน
      และภาคซัมเมอร์อีก เทอมนึงครับ และสอบแก้ตัวซัมเมอร์ด้วยครับ

      ซัมเมอร์น้องจะลงทะเบียนเรียนหรือไม่ก็ได้ ถ้าอยากจบเร็วก็ควรเรียนครับ

      การลงทะเบียนภาคปกติ ที่ราม ลงได้ครั้งละ 24 หน่วยกิตครับ ส่วนเทอมสุดท้ายที่ขอจบ สามารถลงทะเบียนได้ 30หน่วยกิตครับ ส่วนภาคซัมเมอร์ จะลงทะเบียนได้ 18 หน่วยกิต สำหรับคนที่ยังไม่ขอจบ และ 24 หน่วยกิตสำหรับคนที่กาหัวว่าขอจบครับ

      ลบ
  18. สำหรับแผนการเรียนในคณะต่างๆที่ ราม มันจะบ่งชี้จากวิชาที่เราเลือกลงทะเบียนเรียนครับ
    คือทาง ม.ราม จะกำหนดแผนการเรียนแยกไว้อย่างชัดเจน ถ้าเราจะลงแผนเอ เราก้ไปเลือกลงทะเบียนเรียนตามโครงสร้างแผนเอ คือเลือกวิชาในแผนเอเป็นวิชาแกน หรือวิชาเอกครับ เช่นเดียวกับแผนอื่นก็เช่นกัน น้องจะเรียนแผนซี ก็ไปดูโครงสร้างวิชาในแผนซีครับ ในคู่มือที่เขาแจกให้ตอนซื้อใบสมัครครับ เปิดไปดูที่คณะรัฐศาสตร์แผนซี ไม่ต้องสนแผนอื่น แล้วก็ดูว่า วิชาแกนของแผนซีมีวิชาอะไร ก็เลือกลงแผนซีให้ครบตามที่หลักสูตรกำหนดครับ แต่ปีหนึ่งต้องลงวิชาทั่วไปก่อนนะครับ วิชาปีหนึ่งจะคล้ายกันทุกคณะ คือเป็นวิชาทั่วไป ปรับฐานความรู้ก่อน ส่วนแผนซี ยากไหม สำหรับผมเมื่อเทียบกับ สองแผนที่เหลือ คือ แผนเอ ที่โครงสร้างหลักสูตรจะเป็นข้อสอบ อัตนัยมากกว่า และ แผนบี ที่จะต้องมีพื้นฐานทางภาษาต่างประเทศดี แล้วผมคิดว่าแผนซีจะง่ายที่สุดครับในคณะรัฐศาสตร์ จะมีวิชาอัตนัยอยู่ตัวเดียวถ้าผมจำไม่ผิดคือ วิชากฎหมายปกครองครับนอกนั้นก็เป็นแบบปรนัย แต่ถ้าเรามุ่งมั่นตั้งใจ แผนไหนก็ง่ายครับ โชคดีครับ

    ตอบลบ
  19. คนที่เรียนแบบพรีดีกรีเรียนอยู่ที่บ้านใช่ไหมคะ เพราะต้องเรียน ม.4 ด้วย เรียนควบคู่กันไป ถึงเวลาสอบก็ลงไปสอบใช่ไหมคะ

    ตอบลบ
  20. คนที่เรียนแบบพรีดีกรีเรียนอยู่ที่บ้านใช่ไหมคะ เพราะต้องเรียน ม.4 ด้วย เรียนควบคู่กันไป ถึงเวลาสอบก็ลงไปสอบใช่ไหมคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. การเรียนระบบปรีดีกรี ถ้าเรียน ม4 อยู่ ก็ซื้อตำรามาอ่านครับ ถึงเวลาก็ไปสอบ น้องต้องอ่านหนังสือให้ถึงครับ มันจะได้ผลดีกับการเรียน ม.4 ด้วย เพราะวิชาการระดับ ป.ตรี ก็จะเกี่ยวเนื่องต่อจากระดับ ม.ปลายครับ เวลาสอบก็จะหลบกันครับ รามเขาจะจัดหลบให้อยู่แล้วเพราะจะสอบหลังจากโรงเรียนขั้นพื้นฐานสอบเสร็จครับ

      ลบ
  21. กรณีถ้าสนใจเข้าเรียนในหลักสูตร คอมพิวเตอร์กราฟฟิค ต้องทำอย่างไรบ้างครับ ถ้าเราไม่ได้เป็นนักศึกษาราม มีรายลัเอียดไหมครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สามารถไปสมัครเลือกวันเวลาเรียนได้เลยครับ ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ ม.รามครับ ฝั่งทางตลาดหัวหมาก หรือเยื้องๆห้างเซ็นทรัลเดิมครับ (ในรามนะครับ ) ที่ผมบอกเลือกวันเวลาเรียนก็เพราะเขาจะเรียนทุกวันครับ เช่นถ้าเรามีเวลาวันจันทร์ช่วงบ่ายเราก็เลือกวันจันทร์บ่ายครับ แล้วเราก้จะต้องเรียนวันเวลานี้ตลอดจนจบหลักสูตรครับ เช่นเดียวกับวันอื่นครับมีทั้งเช้า บ่ายครับ แต่มีเงื่อนไขว่า คนที่จะเรียนกราฟฟิคต้องมีพื้นฐานคอมฯมาบ้างแล้วครับ ถ้าไม่มีก็ลงเรียน ออฟฟิศพื้นฐานก่อนนะครับ จบแล้วค่อยลงกราฟฟิก และเมื่อจบจะได้รับประกาศนียบัตรจาก ม.รามมอบให้ครับ เขาจะมีทั้งคนนอกคนในครับ ถ้าคนในคือ นักศึกษา ก็เรียนถูกกว่า ส่วนคนนอกก็เรียนได้อาจเพิ่มค่าเรียนนิดหน่อยครับก็แค่หลักร้อยครับ ไปสอบถามเวลาและสมัครเรียนได้เลยครับ เฟชบุ๊คเขา ครับ /www.facebook.com/prcomputer.ru และเบอร์ 02 310 8800สอบถามเขาดูนะครับ

      ลบ
  22. เรียนปวช.ไม่ได้เรียนสายสามัญ4-6สามารถเรียนเก็บหน่วยกิตได้ไหมค้ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ประเด็นนี้แยกเป็น 2 กรณีครับ คือถ้า 1 คือ คุณจบ ปวช.แล้ว ก็ใช้สิทธิเทียบเท่าครับคือเทียบเท่า ม.6 คุณก็สามารถนำวุฒิ ปวช.ไปสมัครเรียนเป็นนักศึกษาปกได้เลยเสียค่าหน่วยกิต 25 บาท

      กรณีที่ 2 คือ คุณกำลังเรียน ปวช.อยู่ยังไม่จบ คุณก็สามารถนำวุฒิ ม.3 ไปสมัครเรียนเป็นนักศึกษาปรีดีกรีได้ครับ เสียค่าหน่วยกิต 50 บาท และเมื่อเรียนจบ ปวช.ก็มาลาออกจากปรีดีกรีและสมัครเรียนใหม่เป็นนักศึกษาปกติ และใช้สิทธิเทียบโอนที่สอบได้ตั้งแต่ปรีดีกรีมาภาคปกติได้เช่นกัน ทั้งนี้ให้สอบถามรายละเอียดที่รามอีกครั้งครับ

      ลบ
  23. คืออยากทราบว่าถ้าจบภายใน 2 ปีครึ่งโดยที่ยังไม่จบ ม.6 และไปสมัครใหม่เพื่อรับปริญญาระหว่างรอรับปริญญาเราสามารถไปสมัครเข้ามหาลัยอื่นได้ไหมค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. การรับนักศึกษาใหม่ ของมหาลัยอื่น เงื่อนไก็คือ 1 ต้องจบ ม.6มาแล้วเท่านั้น คือสามารถระบุวันที่จบการศึกษาได้ หรือ 2. ก็คือ จบ ป.ตรีมาแล้วเช่นกันเพื่อจะไปต่อ ป.โท

      ดังนั้นถ้า เรายังไม่จบ ม.6 ก็ยังถือว่า ยังไม่จบการศึกษาครับ เพราะ น้องจะยังไม่สามารถเข้ารับ ปริญญาที่รามได้เลย เนื่องจากสภามหาลัยที่รามจะยังไม่อนุมัติให้คนที่ยังไม่จบการศึกษาครับ ถึงน้องจบ สอบไล่ได้ตามเกณฑ์ที่รามกำหนดแล้วก็ตาม เพราะจะไม่มีใครได้รับปริญญาในนาม pre Degree ทางเดียวที่จะได้รับปริญญาบัตรก็คือ จบ ม.ปลายก่อน ถึงจะทำการลาออกจากปรีดีกรี และสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ได้ น้องไม่สามารถ สมัครเป็นนักศึกษาภาคปกติได้โดยใช้วุฒิ ม.3ครับ เมื่อเราจบ ม.6 สมัครใหม่และยังคงรักษาสถานะนักศึกษาโดยการลงทะเบียนไว้และลงทะเบียนสอบซ่อมเทอมก่อนไว้ สถานภาพการเป็นนักศึกษาจึงจะยังคงอยู่ เมื่อ เรากาหัวของจบการศึกษา ที่ สมุด ม.ร.26 แล้ว ทางมหาลัยจะทำการตรวจสอบ วุฒิบัตร ม.6 ทันทีว่าถูกต้องหรือไม่ครับ ดังนั้น ถ้าเรียนไม่จบ ม.6 ไม่สามารถไปต่อได้ทุกกรณีครับ น้องต้องตั้งใจเรียน ม.6ให้จบเร็วครับ

      ลบ
  24. ม.ร. รับวุฒิกศนปะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. วุฒิ กศน. ก็มีสิทธิ์และศักดิ์ เหมือนภาคปกติทุกอย่างครับ เมื่อมีสิทธิทุกอย่างก็สามารถสมัครเรียนได้ทุกที่ครับ รามจะเปิดรับครั้งต่อไปประมาณ เดือน พ.ย.59ครับ ต้องรอรายละเอียดอีกทีแต่ประมาณนั้นครับ จะได้เตรียมตัวไว้ก่อน

      ลบ
  25. ทำไมปี1ถึงต้องไปเรียนราม2ค่ะ

    ตอบลบ
  26. ราม2 คือบ้านหลังแรกของลูกพ่อขุน ในส่วนกลางครับ น้องๆปี 1 ที่ยังไม่คุ้นชินกับชีวิตในรั้วมหาลัย ก็จะได้มีโอกาสมาปรับตัวปรับใจ กับเพื่อนวัยเดียวกัน หรือรุ่นเดียวกัน เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจ ให้ดีที่จะเผชิญกับความจริงในสังคม ราม 2 มีสภาพที่เหมาะกับการเรียนรู้ สงบ สะอาด ร่มรื่น ไม่แออัด วุ่นวายเหมือนราม 1 และที่สำคัญคนที่มานั่งเรียนราม 2 ก็จะเป็นนักศึกษาชั้นปีเดียวกัน ทำให้เราได้เพื่อน ได้น้อง ได้พี่ ที่ราม 2 นี้ครับ เมื่อเรามีความพร้อมแล้ว พอรหัส 2 เราก็จะย้ายไปเรียนที่ราม 1 ปนไปกับรุ่นพี่ ที่มีความเชี่ยวชาญในรั้วมหาลัยแล้ว โตแล้ว ส่วนเวลาสอบ เราสอบทั้งราม 1 ราม 2 ครับ

    ตอบลบ
  27. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  28. พี่ครับ
    ผมอยากจะทราบว่าการเตรียมความพร้อมด้านวิชาการ
    รัฐศาตร์การเมืองการปกครองครับ ผมอยากเรียน เสา อา
    ผมเรียนจบจาก รร.ทหาร ความรุด้านวิชาการไม่สู้ ม.ปลายแน่นอนครับ
    ผมจึงอยากรู้ว่า รามปี1เรียนอะไรบ้างครับ

    ตอบลบ
  29. นักศึกษาปี 1 จะเรียนหมวดวิชาทั่วไปครับคือ กลุ่มวิชาปรับพื้นฐาน จะเรียนคล้ายกันทุกคณะ เป็นการปรับฐานก่อนจะแยกย้ายกันตามสาขาวิชาเอกของตนเองในปี 2 ขึ้นไป

    หมวดวิชาทั่วไปก็เช่น สังคมวิทยา ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ จิตวิทยา การเมืองการปกครองไทย รัฐศาสตร์เบื้องต้น เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น ตรรกวิทยา ปรัชญา สถิติ การบริหารองค์กร วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ประมาณนี้ครับ จะแตกต่างกันนิดหน่อยตามแต่ละคณะ แต่โดยรวมแล้วคือ เป็นรหัส 1 ซึ่งเป็นวิชาทั่วไปครับ

    และกลุ่มวิชาทั่วไปนี้เป็นกลุ่มวิชาที่นักศึกษาจะได้เกรด 4 มากที่สุด เพราะเป็นวิชาที่ไม่ยากมาก จะต่างจากวิชาเอกหรือวิชาแกน ซึ่งรหัส 2ขึ้นไป เนื้อหาจะแหลมคมขึ้น ซับซ้อนขึ้นจะเริ่มยากตาม รหัสปีครับ ดังนั้นฐานปี 1 เปรียบเหมือนเสาตอม่อครับ ถ้าเราวางตอม่อดี ก็ไม่ยากที่จะขึ้นชั้นต่อๆไปได้ครับ

    ตอบลบ
  30. จบปวส.คอมพิวเตอร์ธุรกิจ สามารถเทียบโอนได้ไหมคะ

    ตอบลบ
  31. จบปวส.คอมพิวเตอร์ธุรกิจ สามารถเทียบโอนได้ไหมคะ

    ตอบลบ
  32. ให้ไปสมัครเป็นนักศึกษาในช่วงที่รามเปิดรับครับ แล้วกากบาทช่องเทียบโอน จากนั้นค่อยดำเนินการเทียบโอนตามขั้นตอนที่รามกำหนด และจะเทียบโอนได้กี่หน่วยกิตก็เป็นเรื่องที่รามจะเป็นผู้กำหนดชี้ขาดครับ สรุปคือได้ครับ (จากพี่ก้อง )

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น