กังวาล ทองเนตร

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่คลังปัญญา Pohthaiblogspot.com

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2561

Forexคืออะไร ปั้นกระแสเงินสดเสริมสภาพคล่องจากการเทรด ฟอเร็กซ์


Forex  คืออะไร


ฟอเร็กซ์ (Forex ซึ่งย่อมาจากคำว่า foreign exchange เป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศระหว่างโบรกเกอร์โดยไม่มีวันหยุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์แต่ละวันโดยประมาณอยู่ที่ $3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากบุคคลเพียงคนเดียวแต่เกิดจากโบรกเกอร์ของ interbank ในตลาดแลกเปลี่ยนอัตราระหว่างประเทศ interbank เป็นธนาคารที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง



สรุปคือ

คำว่าการเทรด ( Trade ) หมายถึงการซื้อ-ขาย เช่นหุ้น หรือฟอเร็กซ์

ดังนั้นการเทรดฟอเร็กซ์ จึงหมายถึงการซื้อขาย ที่ต้องอาศัยการจับคู่ เป็นหลัก โดยจะมีทั้ง อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน โดยจะมีเงินสกุลหลักอยู่ 7 สกุลคือ



  1. USD    (อเมริกา)
  2. EUR    (ยูโร )
  3. GBP    (อังกฤษ )
  4. JPY     (ญี่ปุ่น )
  5. CAD    (แคนาดา )
  6. CHF    (สวิตส์ )
  7. AUD    ( ออสเตรเลีย )





นอกจากนี้ ตลาดฟอเร็กซ์ ยังจับคู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ ทองคำ  ทองแดง กาแฟ น้ำมัน หุ้น และอื่นๆ  แต่โดยหลักการ ต้องมีการจับคู่อ้างอิงกับสินค้าอื่นเสมอ จะเทรดเดี่ยวๆไม่ได้


ตัวอย่าง จับคู่เงินสกุลหลัก

  • USD/EUR
  • USD/GBP
  • USD/JPY
  • USD/CAD
  • USD/CHF
  • USD/AUD
  • EUR/USD
  • EUR/GBP
  • EUR/CAD
  • GBP/USD
  • GBP/CHF  เป็นต้น
  • นอกจากนี้ยังมีเงินสกุลรอง หมายถึงสกุลเงินที่ไม่นิยมใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันในตลาดโลกโดยทั่วไป  เช่น ไทย สเปน เขมร พม่า อินเดีย รัสเซีย ฯลฯ
การสลับตำแหน่งกันอยู่ข้างหน้า กับข้างหลัง ต่างกันอย่างไร

  • สกุลเงินหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่อยู่ด้านหน้า จะนับเป็นตัวหลัก หรือ เบส ให้เทียบกับ 1 เสมอ

  • เช่น USD/ EUR
 หมายถึง เราเลือกเทรดเงินคู่นี้  1 จึงหมายถึง USD = 1 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับค่าเงินตัวหลังว่าจะมีค่า เท่าใด ถ้าเราคิดว่า ตัวหน้าจะราคาแข็ง หรือ เงินแพงขึ้น เราก็เลือกเทรดฝั่ง ซื้อ หรือ BUY  หรือกลับกัน ถ้าเราคิดว่า ตัวหน้าจะอ่อนค่า หรือราคาถูกลง เราก็เลือกเทรด SELL
เมื่อเราเทรดแล้ว ค่าเงินในเวลานั้นไหลไปในทิศทางเดียวกันกับที่เราคาดหมายเราก็ได้กำไร

แต่ถ้าสวนทางไม่เป็นตามคาด เราก็จะเสีย นี่คือหลักการเทรดทั่วไป ดังนั้นเราจึงควรมีข้อมูลในมือที่เป็นปัจจุบันเสมอ เช่น การปรับดอกเบี้ย การปรับภาษี การกั้นกำแพงภาษี หรือนโยบายอื่นๆ ล้วนมีผลต่อค่าเงินทั้งสิ้น

  • สกุลเงิน รองจะมีความผันผวนมากกว่าสกุลเงินหลัก นักลงทุนมือใหม่จึงควรเริ่มเทรดที่สกุลเงินหลักก่อน และตั้ง ขนาดการลงทุนให้ต่ำๆไว้  เช่น
  •  0.01 pip
  • 0.02  pip
  • 0.03 pip
  • 0.04 pip
  • 0.05 pip
  • 0.06 pip
  • 0.07 pip
  • 0.08 pip
  • 0.09 pip
  • 0.10 pip
เพราะถ้าสูงกว่านี้ จะได้กำไรเยอะก็จริงแต่ถ้าผิดทางจะเสียหายมากตามไปด้วย




  • ตลาด Forex เปิดปิดเวลาไหน?

ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ช.ม.ในวันจันทร์-ศุกร์ แล้วหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ ยกเว้น สกุลเงินดิจิตอล Bitcoin (BTCUSD) ที่สามารถซื้อขายวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ได้

สำหรับช่วงเวลาเปิด-ปิด เมื่อเทียบกับเวลาบ้านเรา(เมืองไทย) จะได้ดังนี้

เวลาเปิด/ปิดทำการของตลาด forex
ตลาดออสเตรเลีย (AUD) เวลา 5:00 – 13:00 น.
ตลาดญี่ปุ่น (JPY) เวลา 7:00 – 14:00 น.
ตลาดยุโรป (EUR) เวลา 13:00 – 21:00 น.
ตลาดสวิส (CHF) เวลา 13:00 – 21:00 น.
ตลาดอังกฤษ (GBP) เวลา 14:00 – 22:00 น.
ตลาดอเมริกา (USD) เวลา 19.00 – 3:00 น.

(ในช่วงหน้าหนาวเวลาของเมืองไทยเวลาจะเร็วขึ้นอีกประมาณ 1 ชั่วโมง)



กระดานซื้อขายใช้โปรแกรม  MT4-MT5



เมื่อเราเรียนรู้หลักการพอประมาณแล้ว ประเด็นต่อมาก็คือ การเปิดบัญชีเทรด

เนื่องจาก forex  แม้จะมีการเทรดทั่วโลก แต่ที่ไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีโบรกเกอร์ของไทยโดยตรง แต่ที่ต่างประเทศจะถูกกฎหมาย  แต่ปัญหาคือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าโบรกไหนถูกกฎหมายที่ต้นทาง เพราะมีมากมาย  
  • เราต้องเลือกจากความน่าเชื่อถือ ความเก่าแก่ และความโปร่งใส เป็นหลัก เช่น มีการเป็นโบรกเกอร์มานานแล้ว  มีสาขาในไทย มีเจ้าหน้าที่เป็นคนไทย มีเว็บเป็นซับภาษาไทยคอยซัพพอร์ตเรา เป็นอย่างดี และมีสาขามากทั่วโลก มีนักลงทุนในไทยให้ความเชื่อถือ เปิดบัญชีเทรดมาแล้วหลายปี
  • โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่กล้ารับรองโบรกอื่น เนื่องจากเรามิได้มีประสบการณ์ การเปิดบัญชีกับเขา  แต่ผมมีประสบการณ์และใช้ บริการ 2 โบรกนี้มาแล้วระยะเวลาพอสมควร ก็ถือว่าดีพอสมควร ก็คือ
  •  โบรก XM
  • กับ โบรกเกอร์  FBS
การเปิดบัญชี เราจะทุนเท่าไหร่


  • การเปิดบัญชี มี 2 ลักษณะ คือ บัญชีทดลองหรือ เดโม DEMO
  • และการเปิดบัญชีจริง REAL

ในการเปิดบัญชีเราไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลย สำหรับคนที่ยังไม่มีความรู้มาก่อน อยากทดลองศึกษาสร้างสมประสบการณ์ไปก่อน ก็สามารถเปิดบัญชี เดโมทดลองก่อนก็ได้  โดยบัญชีเดโมนี้ เราจะได้เทรดกับสถานะการณ์จริง ตลาดจริง เรียลไทม์เลย  แต่ เงิน ทางโบรกจะใส่เงินจำลองเข้ามาให้เรา 1000-1500 เหรียญ

บางคนบอกจริงเหรองั้นฉันเปิด พอใส่เงินเข้ามาแล้วถอนเอาเงินได้ไหม 
ขอบอกว่าอย่า โลภครับ  เราไม่มีความรู้ เขาเปิดบัญชีให้เราลองเทรดก็ ดีถมเถแล้ว เมื่อเทียบกับตลาดหุ้น เราจะไม่มีบัญชีลองเทรด เล่นจริงเสียจริงเลย

บัญชีเดโม กำไร ขาดทุนไม่มีผล เพียงแต่ให้เราทดลองใช้ ว่าถ้า ทรงกราฟแบบนี้ เทรดฝั่งนี้ใช่หรือไม่ หรือถ้าลองเทรด Lot ใหญ่ดูว่า จะแกว่งหรือติดลบมากแค่ไหน เพราะเราลองได้ต้องลองให้หมดจะได้รู้ด้วยตัวเอง เพราะเวลาเปิดบัญชีเทรดจริงเราลองไม่ได้ เราเทรดจริงเสียจริง
ให้ฝึกใช้เครื่องมือให้ครบหรือให้มากที่สุด


  • อย่าเน้นเอากำไรปลอมๆ เพราะเราไม่มีอะไรได้หรือเสียกับบัญชีเดโมอยู่แล้ว แต่ให้เราเรียนรู้ให้มากที่สุด เพราะแม้จะเป็นบัญชีเดโม แต่ก็มีวันหมดอายุ ทดลองใช้ หรือเงินในบัญชีจำลองหมดก็อดรู้อย่างอื่นๆ


  • ส่วนบัญชีเทรดจริง จะมีหลายบัญชี ตามละละโบรกเกอร์เรียกชื่อต่างกันออกไป 
ให้เราดูว่า ฝากขั้นต่ำ ที่จะใช้เทรดไม่สูงมาก ที่เรารับได้
ดูค่าสเปรด ให้ต่ำที่สุด เลือกค่าเลเวอเรจ ไม่สูงนัก เช่น 1:100,1:200,1:500 ก็พอ เพราะถ้าสูงมาก เราเทรดได้แต่ละครั้งปริมาณเยอะก็จริง แต่เราจะถูกความโลภ เข้าสิง เช่น เรามี 100 เหรียญในบัญชี ถ้าเราเลือ1:3000 หมายถึง เราเทรดได้ถีง 3000 เหรียญ ซึ่งเกินทุนเราออกไปเป็นจำนวนมาก มีความเสี่ยงจะถูกล้างพอร์ทได้ง่าย


  • สิ่งที่เราต้องเตรียม ในการสมัครคือ  ให้อัพโหลด สำเนาทะเบียนบ้าน  และสำเนาบัตรประชาชนไว้ หรือ สะแกนจากตัวจริงเข้าเครื่องเราไว้ก่อน

เพราะในขั้นตอนการสมัคร 


  • เรากรอก เมล์ ชื่อ นามสกุล  ที่อยู่ เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด จากนั้นกด ลงทะเบียนไปทางโบรกจะส่งเมล์มาหาเรา ให้เราเปิดเมล์และคลิกลิงก์เพื่อยืนยันเมล์
 ( ต้องแน่ใจว่าเมล์ที่เราใช้สมัครยังใข้งานได้อยู่และจำรหัสล็อกอินได้ ให้ทดลองเข้าเมล์ดูก่อน )

จากนั้นจะเป็นขั้นตอนยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ โดยเรากรอกเบอร์เราแล้วส่ง ทางโบรกจะโทรกลับมาหาเรา เป็นภาษาไทย แล้วให้รหัสยืนยัน ให้เรานำรหัสนั้นไปกรอกลงช่องยืนยัน แล้วส่ง
ขั้นตอนสุดท้ายคือยืนยันตัวตน โดยการเลือกประเภทเอกสาร ก่อนแล้วคลิกอัพโหลดไฟล์รูปภาพเอกสารที่เราเตรียมไว้ แล้วรอ เมื่อเสร็จขั้นตอน ให้เราล็อกอินเข้าบัญชีเราแล้วคลิกรับโบนัสตามตกลงเข้าบัญชี


จากนั้นให้เราอัพโปรแกรมเทรด MT4 -หรือ MT5 ก็ได้ ต่างกันที่ mt5สามารถซื้อ หุ้นอ้างอิงได้ mt4 ซื้อไม่ได้เท่านั้นเอง และให้เลือกให้ตรงกับแพลทฟอร์มเรา ทั้งสมาร์ทโฟน และ พีซี

จากนั้นปรับแต่งบัญชีเรา และทำการเทรดได้เลย

มีปัญหาไม่เข้าใจตรงไหนสามารถสอบถามเป็นคำภามไว้ได้ใต้บล็อกนี้ หรือไปดูที่ วีดีโอแนะนำหรือลิงก์ต่างๆด้านล่างนี้

ส่วนการเติมเงินเข้าบัญชีหรือฝากเงิน ให้เราไปเปิดบัญชี ไอแบงค์กิ้งกับธนาคารที่เรามี จากนั้นค่อยฝากเงินเข้า หรือถอนเงินออกผ่านไอแบงค์กิ้งเรา ได้เลย 

ขอให้ทุกคน ลงทุนอย่างมีสติ เพราะฟอเร็กซ์ สามารถสร้างกำไรและกระแสเงินสดให้เราได้จริง
เหมาะกับการเสริมสภาพคล่องของเราให้ดียิ่งขึ้น เพราะลงทุนน้อย  เห็นผลเร็ว ได้แล้วให้ออก อย่าโลภ สะสมกำไรไปเรื่อยๆให้ได้ทุกไม้ก็พอ หรือเสียให้น้อยที่สุดขอให้ทุกคนโชคดี


หน้าหลัก
เปิดบัญชีซื้อขายฟอเร็กซ์จริง
MotoGP promo 2018
ประเภทบัญชีซื้อขาย
บัญชีฟอเร็กซ์ที่มีสเปรดเป็นศูนย์
แพลทฟอร์ม MT4
  เปิดบัญชีเดโม
โปรโมชั่นและโบนัส
งานสัมมนาฟอเร็กซ์
เกี่ยวกับ
วิธีการถอนเงิน
  วิธีการฝากเงินเข้าบัญชี
เครื่องคิดเลขฟอเร็กซ์
เครื่องคำนวณฟอเร็กซ์มาร์จิ้น
เครื่องคำนวณมูลค่า Pip ฟอเร็กซ์
แพลตฟอร์มซื้อขาย Android MT4
การช่วยเหลือของ XM
แพลตฟอร์มซื้อขาย MetaTrader 5 (MT5)
พื้นที่สำหรับสมาชิก XM
  งานสัมมนาฟอเร็กซ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น