กังวาล ทองเนตร

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่คลังปัญญา Pohthaiblogspot.com

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2564

การทำคิวอี QE มีผลต่อตลาดหุ้นอย่างไร

 


สำหรับนักลงทุน ไม่ว่าตลาดไหน จะตราสารหนี้ ตราสารทุน ก็ต้องให้จับตาการประชุมของเฟดให้ดี ในวันที่ 21-22 นี้ เพราะประเด็นหลักที่เฟดจะนำเข้าที่ประชุมและกระทบต่อตลาดคือ การลด QE

  •  ก่อนอื่น คุณต้องเข้าใจก่อนว่า QE หรือ Quantitative Easing คืออะไร ผมจะอธิบายเป็นภาษาบ้านๆ ให้เข้าใจง่ายๆก็คือ การทำ Quantitative Easing ( QE ) ก็คือ การอัดฉีดเม็ดเงิน หรือการเสริมสภาพคล่อง ด้วยการเติมเม็ดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น การใช้เงินเข้าซื้อพันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ที่เป็นสินทรัพย์ เพื่อเสริมสภาพคล่องระบบ หรือแม้กระทั่ง พิมพ์เงิน หรือปั๊มเงินขึ้นมาเพิ่ม เพื่อการเดียวกันคือ อัดฉีดเข้าไปในระบบ รักษาสภาพคล่องระบบ ให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้

ดังนั้นจะเห็นว่าการทำ QE ไม่ได้ทำในภาวะที่เศรษฐกิจดี แต่จะทำในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เมื่อเราเข้าใจเป็นเบื้องต้นดังนี้ เราก็จะพิจารณาได้ว่า การทำ QE  กับการยกเลิก QE จะมีผลกระทบต่อ ตัวเลขทางเศรษฐกิจใดบ้าง

  • เมื่อเราพิจารณา ตั้งแต่ไบเดนเข้ามาเป็นรัฐบาล แนวโน้มเศรษฐกิจอเมริกามีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นกว่าสมัย ทรัมป์มาก

และการทำ QE รัฐบาลต้องแบกรับภาระทางการเงินสูงมาก 

  •  จึงมีระยะเวลากำหนด เป็นครั้งคราวไปเท่านั้น เมื่อรัฐบาลมองเห็นว่า ระบบเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวเองและเดินด้วยลำแข้งตัวเองได้ รัฐบาลก็จะยกเลิกมาตรการนี้เสีย
  • แนวโน้มที่เฟดจะลดการทำคิวอีลง ก็มีโอกาสเกิดขึ้นสูง ใช้คำว่า ลด ไม่ได้ใช้คำว่าเลิก คือยังคงประคองๆกันไปก่อนสักระยะรอดูอาการ
  • เมื่อแนวโน้มการลด คิวอีลง ก็หมายความว่า เงินที่เคยถูกนำไปซื้อพันธบัตรไว้จะถูกขายหรือไถ่ถอนออกมา ตลาดพันธบัตรซึ่งเป็นตลาดตราสารหนี้ มีความเสี่ยงต่ำ กว่าตลาดหุ้น ซึ่งเป็นตลาดทุน นักลงทุนที่เคยใส่ทุนไว้ในตลาดตราสารหนี้ ก็จะได้ผลตอบแทนต่ำตามไปด้วย เมื่อ มีการถอนทุนออกไป

กรณีนี้ นักลงทุนจึงจะโยกทุน ออกจากตลาดตราสารหนี้ ไปใส่ตราสารทุนแทน เพื่อให้ตนเองมีระดับผลตอบแทนในระดับเดิมเป็นอย่างน้อยหรือสูงกว่า

  • ส่วนตลาดทอง ราคาทองก็จะร่วงลงทันที ถ้าเราถือทอง ก็ต้องวัดใจว่า เฟดจะเอาไง เพราะถ้าเฟดลดคิวอี ทองร่วงกองพื้น เราอาจขายออกไม่ทัน ส่งผลพอร์ทลงทุนเราเสียหายได้ แต่ถ้าขายออกก่อน แต่ตัวเรายังติดดอยอยู่ ก็ยอมขาดทุน คุณก็ตัดสินใจเองว่าจะเอาอย่างไร
  • ส่วนตลาดหุ้น ซึ่งยืนตรงข้ามกับทอง และตราสารหนี้ทั้งหลาย เมื่อพันธบัตร กองทุนต่างๆให้ผลตอบแทนต่ำ ทุนจะถูกโยกออกมาเข้าตลาดหุ้นทั่วโลกแทน ตลาดหุ้นจะคึกคักขึ้นทันที รับ คิว 4

สรุปคือ เฟดออกทางไหนมีคนได้คนเสียแน่นอน เราจะตัดสินใจยืนตรงจุดไหนก็ชั่งน้ำหนักใจตัวเองดู สำหรับผม เก็บหุ้น ดักไซแห้งรอพายุเข้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น