พวกที่เป็น Constitutionalism ก็จะเหมือนพวกคลั่งคัมภีร์ทางศาสนานั่นล่ะ
- พวกนี้มิได้ศึกษาคัมภีร์เพื่อรู้แจ้งเห็นจริง หรือค้นหาความจริงในนั้น และนำมาย่อยมาแยกแยะ ถอดออกมาเป็นส่วนๆ เพื่อหาแก่นแท้ และคัดเอาแต่ของดีมาสอนกัน แต่คนพวกนี้จะกอดคัมภีร์แน่น เหมือนติดยาเสพติด ทำให้คนเห็นว่ากูเชี่ยวชาญคัมภีร์ กูรู้ กูจดจำได้ทุกอักษร จากนั้นก็ใช้คัมภีร์มาเป็นฐาน ยกตัวเองให้สูงกว่าคนอื่น ใช้คัมภีร์เป็นข้ออ้างในการกดขี่คนอื่น ใช้คัมภีร์เป็นบรรทัดฐานความดี ของตน
- ใช้คัมภีร์สร้างฐานอำนาจ ใช้คัมภีร์ระดมคน ใช้คัมภีร์เป็นอาชีพ ใช้คัมภีร์เป็นขุมทรัพย์เป็นนากิน
สุดท้ายนำไปสู่สงคราม ฆ่าล้างกัน
- ดังนั้นพวกบ้าศาสนา จะเป็นคนเดียวกันกับพวกบ้าคัมภีร์ ติดยึดคัมภีร์
สุดท้ายท้ายสุด
- ทั้งบ้าศาสนา และบ้าการเมือง มันคือพวกที่ทำให้โลกไม่สงบสุข คือพวกก่อสงครามจุดไฟสงครามใส่โลกทุกหัวระแหง
ทั้งคัมภีร์การเมืองคัมภีร์ศาสนา คัมภีร์เศรษฐกิจ มีแก่นแท้อยู่ที่เดียวกันคือ ทำไมต้องมีคัมภีร์
- ก็เพื่อให้เป็นแบบแผน นั่นคือเป้าหมายหลัก คือต้องการให้เป็นแบบแผนปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางที่ดีงาม ทางเจริญ
- ดังนั้นข้อความตัวอักษร เป็นเพียงสิ่งที่ผู้สร้างคัมภีร์หรือทฤษฎี พยายามจะออกแบบให้คนเข้าใจได้ ประพฤติได้ เป็นไปได้ ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะไปตามทางนั้นได้
- อักษรในทุกคัมภีร์จึงเกิดมาจากแนวคิด มันจึงสามารถแก้ไข ปรับเปลี่ยน ถกเถียง กันได้เสมอถ้าเห็นว่าไม่เข้ากับยุคสมัย
- อย่าเป็นแค่บัณฑิตที่รู้แต่ทฤษฎี อ่านแค่หนังสือออก แต่ไม่สามารถถอดแยก ขี่ทฤษฎี สร้างทฤฎีใหม่ได้ ก็เป็นแค่บัณฑิตผู้รู้หนังสือ ไม่สามารถเป็นปราชญ์ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น