เห็นเจ้าแมงกว่างนี้แล้ว แสดงว่าคุณได้เดินทางเข้ามายังถิ่นนักสู้แห่งขุนเขาแล้วครับ
ปัว สวรรค์กลางหุบเขา
- ความงามของที่นี่โด่งดังจากปากต่อปากของผู้มาเยือน จากความลึกลับ กลายเป็นสวรรค์ขึ้นมาในพริบตา
- ถิ่นวัฒนธรรมที่คงอัตลักษณ์ไว้อย่างเหนียวแน่น สองฟากทางเต็มไปด้วยนาข้าว กองฟางที่สวยงามเหมือนยอดปราสาทแห่งเวียงวัง ที่ตั้งเด่นอยู่กลางทุ่งนา และผู้คนที่นี่ไม่เคยขาดรอยยิ้มที่บนใบหน้า
- มีวัดวาอารามเก่าแก่ วัฒนธรรมของชาวไทลื้อ ชุมชนดั้งเดิมที่ไม่มีการปรุงแต่ง
- ที่ปัว นอกจากมีทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว คุณยังจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชุมชนชาวไทลื้อ กับการทอผ้าลายน้ำไหลที่โด่งดังไปทั่วโลก
- บรรยากาศยามเช้าที่นี่ถ้าคุณต้องการสัมผัสปัวอย่างแท้จริงให้ออกไปเดินตลาด คุณจะพบกับวิถีชีวิตคนพื้นเมือง สินค้า พืชพันธุ์ ซึ่งเป็นผลิตผลท้องถิ่นจะนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันในบรรยากาศสลัวๆท่ามกลางม่านหมอก เช่นยอดผัก ยอดฟักทอง ตำลึง ผักหวาน
- รวมถึงชิมอาหารพื้นเมืองอย่าง ตำขนุน ตำเตา ส่ามะเขือแจ้ แอบอ่อง ออหมู หยิบอาหารเช้าใส่ปากท่ามกลางบรรยากาศของผู้คนที่เป็นมิตร และรสชาติอาหารที่คล่องคอ คุณจะไม่รู้ตัวว่าอาหารหมดตั้งแต่เมื่อไหร่
- อาหารพื้นเมืองของที่นี่อีกอย่างก็คือ หมูสามชั้นแกงกับน้ำพริกทางเหนือ และยำหนัง ซึ่งเป็นหนังวัวตากแห้ง มาเผาให้สุก หั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปแช่น้ำจนนุ่มหนุบๆ ก่อนนำมาคลุกกับพริกป่นและปรุงรสโรยผัก มันอร่อยจนคุณลืมเมนูจากภัตราคาร
คุณต้องชิมเมื่อมาถึงที่นี่ไม่เช่นนั้นไม่ถึงปัวครับ
เมนูจากหนังแห้งนำมาดัดแปลงได้อีก
หนังวัว/ควายตากแห้งก่อนเป็นเมนูเด็ด
ยำหนัง ซึ่งทำจากหนังวัวหนังควายตากแห้ง
- มาที่นี่แล้วอย่าลืมไปหยอกเหย้ากับต้นไม้อารมณ์ขันด้วยครับ
- ก่อนถึงอำเภอเล็กน้อยมีทางแยกเข้าสู่วัด วัดปรางค์ ตั้งอยู่ในอำเภอปัว จังหวัดน่าน ลองเลี้ยวรถเข้าไปครับ ไปดูต้นดิกเดียม พันธุ์ไม้อัศจรรย์ ที่เมื่อไหร่ถูกสัมผัส เจ้าหล่อนก็จะสั่นไหวระริกทุกครั้งยามต้องมือ น่าแปลกใจยิ่งนัก
กังวาล ทองเนตร
ขอบคุณเพื่อนบล็อกเกอร์ทุกท่านที่เอื้อเฟื้อภาพสวย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น