เรียนรามได้มากกว่าที่คิด
สวัสดีครับ เพื่อนพ้องน้องพี่ ที่กำลังตัดสินใจจะเข้าเป็น ลูกสาว ลูกชาย คนใหม่ของพ่อขุน ในฐานะรุ่นพี่
ขอแนะนำน้องๆให้ทำความเข้าใจ ศัพท์แสงต่างๆ ในรั้วพ่อขุนของเรา และรายละเอียดต่างๆให้เข้าใจดังนี้ครับ
การเรียนที่รามคำแหง จะมีนักศึกษาอยู่ 2 ประเภทครับ
- นักศึกษาภาคปกติ หมายถึงนักศึกษาที่ได้สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ( ม.6 ) มาแล้ว
- นักศึกษา Pre-Degree หรือ Non-Degree หมายถึงนักศึกษาที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาในระดับ ม.ปลายมา แต่ สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือ ม.3 มาแล้ว
ทั้งสองประเภทนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
- นักศึกษาทั้ง 2 ประเภท ได้เรียนในห้องเรียน และมีสิทธิในการลงทะเบียนเรียน-สอบ-สอบซ่อม เก็บสะสมคะแนน ( หน่วยกิต )เหมือนกันทุกอย่าง
ข้อแตกต่างคือ
- นักศึกษา ปกติ จะได้รับการชำระค่าหน่วยการเรียนหรือหน่วยกิตที่ถูกกว่า คือ หน่วยกิตละ 25 บาทและเมื่อสอบได้ครบกระบวนวิชาตามโครงสร้างของหลักสูตร จะได้เข้ารับพระราชทาน ปริญญาบัตร
- นักศึกษา ปรีดีกรี ( Pre-Degree ) จะจ่ายค่าหน่วยกิตที่แพงกว่า คือ 50 บาท/หน่วยกิต
- เนื่องจากระบบปรีดีกรีนี้ ทาง ม.รามได้เปิดหลักสูตรขึ้นมาเพื่อให้โอกาส กับผู้ที่สำเร็จการศึกษา ระดับ ม.ต้น ได้มีสิทธิในการเข้าเรียนก่อนจบการศึกษาระดับ ม.ปลาย
- กล่าวคือ เมื่อจบ ม.3 แล้ว สามารถนำวุฒิ ม.3 ไปสมัครเรียนรามได้ ในระบบ ปรีดีกรีนี้ สามารถลงทะเบียนเรียนได้เหมือนนักศึกษาภาคปกติทุกอย่าง และสะสมหน่วยการเรียนที่สอบผ่านไปแล้วไว้ได้ ควบคู่กับการเรียน ม.6 ไปด้วย ( เรียน 2 ทาง ) คือเรียน ม.6 ควบคู่กับเรียน ป.ตรี ที่รามไปพร้อมกัน
- วิธีนี้จะทำให้น้องๆที่เข้าเรียนระบบนี้จบการศึกษาได้เร็วกว่า และรับปริญญาบัตรได้เร็วกว่า คนที่ต้องรอให้จบ ม.6 ก่อน
- ต่อเมื่อนักศึกษา ได้สำเร็จการศึกษาในระดับ มัธยมปีที่ 6 ( ม.6 ) แล้ว ให้นักศึกษา ไปลาออกจากระบบ ปรีดีกรี และนำวุฒิ ม.6 ไปสมัครใหม่เพื่อเป็นนักศึกษาภาคปกติ
- ขั้นตอนนี้สามารถทำได้ภายในวันเดียวกัน คือเมื่อ น้องๆได้วุฒิ ม.6 มาแล้วหรือสำเนารับรองการจบการศึกษา ที่มีวัน เดือนปี ถูกต้อง ให้น้องๆไปลาออก ที่อาคาร ส.ว.ป.ชั้น 2 ( ให้ไปลาออกในช่วงที่ ม.ราม กำลังเปิดรับนักศึกษาใหม่ ) เช่น ม.รามรับนักศึกษาใหม่ในช่วง วันที่ 3-6 พฤศจิกายน ก็ให้น้องเตรียมเอกสารในการสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ให้พร้อม
- จากนั้นไปลาออกจาก ปรีดีกรี ที่อาคาร ส.ว.ป.ชั้น2 และนำเอกสารการลาออกจากนักศึกษาปรีดีกรีนี้ ไปเป็นเอกสารยืนยันการสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ในวันนั้นเลย
น้องๆก็จะได้เป็นนักศึกษารามภาคปกติเต็มตัว และเสียค่าหน่วยกิตที่ปกติตามเดิมคือ 25 บาท/หน่วย
- ส่วนหน่วยการเรียนที่น้องสะสมมาได้ตั้งแต่เรียน ปรีดีกรี ก็ให้นำไปโอนเข้าไปสู่ภาคปกติ ได้ทั้งหมด เช่นน้องเรียนสะสมหน่วยกิตมาได้ 120 หน่วยกิต ก่อนลาออก และสมัครเรียนเข้า ม.6 ก็นำไปเทียบโอนในวันสมัครนี้เลย หรือ หลังจากสมัครก็ได้ ทั้ง 120หน่วยกิตที่น้องสอบผ่านได้ เสียค่าเทียบโอน หน่วยกิตละ 50 บาทเท่าที่เราเรียนมาตอนเป็นปรีดีกรี
- เมื่อน้องเทียบโอนเสร็จ เกรด ทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ และน้องสามารถลงทะเบียนเรียนต่อในกระบวนวิชาที่เหลือได้เลย เช่น นิติศาสตร์ จบที่ 144 หน่วยกิต
ตอนเรียนปรีดีกรี น้องสอบได้แล้ว 120 หน่วยกิต เหลืออีก 24 หน่วยกิต น้องสามารถลงทะเบียนเรียนทั้งหมด 24 หน่วยกิต และกาหัวว่าขอจบการศึกษาได้เลย
- นี่คือประโยชน์ของปรีดีกรี ที่น้องสามารถจบได้ก่อน ถ้าน้องเรียนเก่งมีความตั้งใจน้องสามารถ จบได้ในเวลา 2 ปีครึ่ง โดยลงทะเบียนเรียนภาคปกติ 4 ภาค และภาคฤดูร้อน 2 ภาค ก็จบแล้ว ใน 2 ปีครึ่ง โดยที่น้องยังไม่จบ ม.6 ด้วยซ้ำ น้องก้รอจบ ม.6 แล้วไปลาออกจากปรีดีกรี สมัครใหม่เป็นภาคปกติเทียบโอน ก็เข้ารับปริญญาได้เลย
- ในขณะที่เพื่อนน้องไม่ได้เรียนก็เพิ่งจะไปหาที่เรียนส่วนน้องอายุ 18 เท่ากันรับ ป.ตรี แล้ว และกำลังเข้าทำงาน หรือกำลังเรียน ป.โท เห็นหรือยังว่า ระบบนี้เป็นการเปิดโอกาสอย่างมหาศาลที่เราต้องรีบคว้า งานมันมีน้อย จบก่อนทำงานก่อน เรียนโทก่อน ก้าวหน้ากว่ากันเยอะครับ
เอกสารที่ใช้สมัคร
- ใบสมัครและใบขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา ( ม.ร.2 )กรอกชื่อ ติดรูปให้เรียบร้อย รูปถ่ายขนาด 2นิ้วเท่านั้น ทากาวและติดที่กรอบ
- ใบสำเนาวุฒิการศึกษา 2 ฉบับ ( ม.6 สำหรับภาคปกติ ม.3 สำหรับปรีดีกรี )
- สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อ สกุล ผู้สมัคร 2 ฉบับ
- สำเนาบัตรประชาชน 3 ฉบับ
- ใบรับรองแพทย์ 1ฉบับ (ไปรับที่รามได้ )
- แบบฟอร์มขอเปิดบัญชีธนาคารทหารไทย (เพื่อน้องจะได้ใช้บัตร ธนาคารเป็นทั้งบัตรนักศึกษาและบัตร เอทีเอ็ม เปิดบัญชี 100 บาท)
- คู่มือแนะนำการกรอกและให้ใช้ดินสอ 2บี ขึ้นไประบาย ระเบียนประวัตินี้ให้ครบและถูกต้อง ( ม.ร.25 )และแผ่นสีเขียวที่มาพร้อม ชุดใบสมัครที่น้องซื้อตอนแรก ( ถ้าน้องไปสมัครที่รามจะมีรุ่นพีคอยแนะนำตามจุดต่างๆสามารถถามพี่เราได้)
- ใบสมัครสมาชิกข่าวราม (เพื่อเป็นช่องทางแจ้งข่าวการเรียนการสอนการสอบในแต่ละภาคการศึกษาให้น้องได้รับรู้ )
- หมายเหตุ เวลากรอกใบสมัคร (ม.ร.2 ) ให้น้อง กากบาท ในช่อง เรียนรายกระบวนวิชา Pre- Degree เท่านั้น ไม่ต้องกากบาทในช่องบนที่ระบุคณะนะครับ ช่องนั้นสำหรับผู้ที่จบ ม.6แล้วเท่านั้น อย่าลืมนะครับ ดูให้ดี
ศัพท์แสงที่น้องควรเรียนรู้
เช่น PS110 M0830-1110 BNB801 M20 OCT.2013 B หรือ A
ความหมายคือ
- PS เป็นรหัสวิชา ของคณะรัฐศาสตร์ 110 คือชั้นปีนักศึกษา ปี 1และเป็นระหัสวิชาใช้ลงทะเบียนเรียน PS110 ชื่อวิชาคือ การเมืองการปกครองไทย เป็นต้น
- M0830-1110 หมายถึง เรียนในวันจันทร์ ( M=Monday ) เวลาเรียน 08:30-11:10 น.
- BNB801 หมายถึง อาคารเรียน BNB ( BangNa Build ) 801 คือห้องเรียน ของอาคารเรียนนี้ อยู่ที่รามฯ2
- M20 OCT.2013B หมายถึงวันสอบของวิชานี้ คือถ้าน้องเลือกลงทะเบียนเรียนวิชานี้ น้องจะสอบในวันจันทร์ ที่ 20 เดือนตุลาคม 2013 ส่วนB สอบคาบบ่าย Aหมายถึงสอบคาบเช้า ส่วนเวลาที่ชัดเจนทางรามจะแจ้งในตารางสอบส่วนบุคคลอีกครั้งก่อนสอบ 1 สัปดาห์ น้องต้องไปรับตารางสอบนะครับเพราะจะระบุเวลา ที่นั่งสอบเลขที่สอบในนั้นซึ่งเราต้องใช้กรอกในใบคำตอบของเรา
รวมความทั้งหมดมีดังนี้
วิชา PS110 เรียนเวลา 8.30-11.10 น.ที่ห้อง 801 อาคาร BNBและสอบในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2013 คาบบ่าย
- ถ้าน้องเจอในตัวอื่นๆ ก็เหมือนกันครับจำแบบนี้ไปได้เลย เปลี่ยนเฉพาะ รหัสวิชา เวลาเรียนเวลาสอบ คาบเช้าหรือบ่ายเท่านั้นเอง
- เมื่อน้องรู้อย่างนี้ก็จะจัดการบริหารเวลาของตัวเองได้ว่า วิชาไหน เรียน วันเวลาไหน สอบเวลาไหน
- ก็ทำให้เราเลือกลงทะเบียนไม่ซ้ำกันกับที่สอบอยู่ ม.6 หรือลงซ้ำกับวิชาอื่น
- ปกติถ้าน้องลงทะเบียนเรียนถูกจะไม่สอบเวลาตรงกันหรือใกล้กันครับ
- ดังนั้นน้องต้องลงทะเบียนให้ถูกต้องในคู่มือ ตามสาขาและคณะที่น้องเลือกเรียน
- และนักศึกษา ปี 1 ต้องลงทะเบียนเรียนในรหัส 1 ขึ้นต้นเท่านั้นครับ เทอมแรกกับเทอม 2 จะเป็นการเรียนปูพื้นฐานวิชาทั่วไปของแทบทุกคณะมาเรียนในปี1 ดูคู่มือให้เข้าใจครับ
- ปี 1.ต้องเรียนที่รามฯ2 เท่านั้นครับ จำไว้เลย รามฯ2 คือบ้านหลังแรกของเราลูกพ่อขุนทุกคน ที่นี่บรรยากาศดีเหมาะแก่การเรียนไม่วุ่นวายเหมือนราม ฯ1
ส่วนเวลาสอบจะสอบทั้งราม 1และราม 2
อาคารเรียนที่รามฯ2 จะมีดังนี้ครับ
- BNB 1-11 ( BNB มี 11 อาคาร )
- KTB (อาคารคนที)
- PBB ( อาคารพระบาง)
- PRB ทั้งหมดนี้อยู่ที่ราม 2 ครับ
นอกเหนือจากนี้ราม 1 ทั้งหมด
- เช่น ส.ว.ป. อาคารนี้น้องต้องจำเพราะเราจะใชบ่อยติดต่อ เช็คเกรด สมัคร ลาออก ทุกอย่างอยู่ที่อาคารนี้
VPB,KLB,VKB,SBB ฯลฯ พวกนี้อยู่รามฯ1 ทั้งหมด
- พอน้องลงทะเบียนเรียนในวิชาพื้นฐาน รหัส 1 ผ่านหมด น้องก็จะลงทะเบีนยเรียน รหัส 2 เช่น PA220 พวกนี้เรียกว่า รหัส 2 เป็นของนักศึกษาปี2 ใช้ลงทะเบียนเรียน รหัส 3 รหัส 4 ไปเรื่อยจนจบหลักสูตร
- อย่าลงทะเบียนข้ามคณะนอกหลักสูตรนะครับ ดูว่าเราสมัครลงคณะอะไร สาขาอะไร เพราะแต่ละคณะจะมีสาขาแตกออกไปน้องต้องตัดสินใจให้ดีให้เหมาะกับเรา
- ส่วนน้องนักศึกษาปรีดีกรี จะยังไม่มีรหัสคณะครับ รหัสจะเป็น 0 แต่ให้เราเลือกลงกระบวนวิชาที่เป็นโครงสร้างของสายนั้นทั้งหมด
เช่นเราเลือกเรียน คณะรัฐศาสตร์
คณะรัฐศาสตร์ ก็จะแบ่งออกเป็น 3 ภาควิชาหรือ 3แผน ( Plan) การเรียน
- แผน A คือ ภาควิชาการปกครอง รหัสวิชาเรียนบังคับของเราคือ PS แผนนี้จบไปก็ไปสอบสายปกครองครับเริ่มจาก ปลัดอำเภอแผนนี้เป็นแผนใหญ่หนักไปทาง การจัดรูปออกแบบโครงสร้างการปกครอง ทฤษฎีการปกครอง เป็นหลักเลย ยากสุดในสายรัฐศาสตร์ ถ้าไหวเรียนเลยครับ ถ้าไม่ไหวเลือกแผนอื่นจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง ข้อสอบสายนี้ เป็นอัตนัย มากโดยเฉพาะวิชาแกน วิชาบังคับเป็นอัตนัยครับ
- แผน B คือ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พวกนี้จบไปก็ไปสอบทางการฑูตครับ รหัส PSเช่นกันแต่เนื้อหาหนักไปทางการฑูตครับ แผนนี้เรียนแล้วจะเก่งภาษาครับ
- แผน C คือ การบริหารรัฐกิจ รหัส PAสายนี้เมื่อจบ ส่วนใหญ่ถ้าทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลตามบริษัทห้างร้านก็จะเป็นนักรัฐศาสตร์สายนี้ครับ เพราะเขาเรียนการจัดรูปองค์กร การบริหารงานส่วนบุคคลเป็นหลัก
- ส่วนใหญ่น้องๆที่สมัครรัฐศาสตร์ใหม่ๆมักเลือกแผน A แต่พอถึงปี 2 ย้ายไปแผน C กันหมดเพราะเริ่มเจอข้อสอบอัตนัย ตัวแรกเลยที่น้องจะเจอคือ การปกครองส่วนภูมิภาค PS205 วิชานี้รับน้อง แผน A เป็นด่านแรกเลย สู้นะครับคนอื่นจบได้เราก็จบได้
- เมื่อเราเลือกคณะและเลือกสายแล้วก็ให้เลือกวิชาในกระบวนโครงสร้างของสายนั้นๆให้ถูกต้องลงทะเบียนครับ
คณะที่เปิดสอนที่ ม.ราม
- คณะนิติศาสตร์ รหัสประจำคณะ 0100
- คณะบริหารธุรกิจ เปิดสอน 10 สาขา รหัส 02...
- คณะมนุษยศาตร์ เปิดสอน 12 สาขาภาควิชา รหัสคณะ 03..
- คณะศึกษาศาสตร์ 21 สาขา จิตวิทยา 5 สาขา และสาขาวิชาภูมิศาสตร์อีก 3สาขาวิชา ทั้งหมดรวมอยู่ในคณะศึกษาศาสตร์ รหัสคณะ 04..
- คณะวิทยาศาสตร์ เปิดสอน 14 สาขาวิชา รหัสคณะ 05..
- คณะรัฐศาสตร์ เปิดสอน 3 สาขา (แผน A,B,C ) รหัสคณะ 0601 ทั้ง 3 แผน และเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกแผนคือ สาขาบริหารงานยุติธรรม รหัสสาขา 0602
- คณะเศรษฐศาสตร์ รหัสคณะ 0700 ทุกสาขา
- เทคโนโลยีการสื่อสารมวลชน สาขาวิชาสื่อสารบูรณาการ รหัสสาขาวิชา 5406 และสาขาวิชาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ รหัสสาขา 5407
- คณะศิลปกรรมศาสตร์ เปิดสอน 4 สาขา คือ นาฎศิลป์ไทย/ดนตรีไทย/ดนตรีไทยสมัยนิยม วิชาเอกลูกกรุง/ดนตรีไทยสมัยนิยม วิชาเอก ลูกทุ่ง รหัสสาขา 55..
- Pre-Degree เรียนก่อนที่จะจบ ม.6 เพื่อเก็บสะสมหน่วยกิต และนำไปเทียบโอนเมื่อจบ ม.6 ตามที่ได้อธิบายไปแล้วแต่ข้างต้น ยังไม่มีรหัสคณะ ใช้ 9000 เหมือนกันทั้งหมด จนกว่าจะจบ ม.6 และลาออกจากปรีดีกรี และสมัครใหม่เป็นนักศึกษาภาคปกติ ตามคณะที่เราเลือกเรียนไว้แล้วตอนปรีดีกรี ก็จะ บ่งเลขคณะ เป็นไปตามนั้น เช่นตอนปรีดีกรี เลือกเรียนรัฐศาสตร์ เมื่อจบ ม.6 และลาออกจากปรีดีกรีแล้วนำวุฒิ ม.6 มาสมัครเป็นนักศึกษาใหม่เข้าคณะรัฐศาสตร์เหมือนที่เรียนปรีดีกรี เลขรหัสคณะก็จะเป็น 0601 หรือ 0602 ตามที่เราเลือกไว้แล้วสมัยเรียนปรีดีกรี
อัพเดพ อัตราค่าใช้จ่ายใหม่ล่าสุด
**ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเมื่อแรกสมัครเรียน ปริญญาตรี( ภาคปกติ หรือจบ ม.6 แล้ว ) มีดังนี้**
- ค่าลงทะเบียนเรียนเป็นรายหน่วยกิตๆละ 25 บาท หนึ่งภาคเรียนลงได้ 24 หน่วยกิต ก็ใช้ 24 x 25 =... หรือเราจะลงทะเบียนเรียนน้อยกว่านี้ก็ได้ แต่จบช้าครับ พี่ก้องแนะนำรีบเรียนรีบจบ อย่าอยู่รอเป็นปู่-ย่า ที่รามเลยครับ
- ค่าบัตรประจำตัวนักศึกษา 60 บาท
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้าเป็นนักศึกษา 900 บาท
- ค่าขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา 800 บาท
- ค่าสมาชิกหนังสือพิมพ์ข่าวราม/ภาคเรียน 100 บาท
- ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย 500 บาท
- ค่าเทียบโอนหน่วยกิต จาก ม.ราม 50 บาททุกกรณี
- รวมเบ็ดเสร็จ สำหรับผู้ลงทะเบียนเต็ม 24 หน่วยกิต จ่ายทั้งหมด 2,960 บาท
- ที่เหลือลดหลั่นไปตามที่น้องลงทะเบียนเรียนว่ากี่หน่วยกิต
- ยกเว้นปรีดีกรี ตัวคูณต้องเป็น 50 บาทนะครับ เพราะน้องได้โอกาสเรียนก่อนเขาจบก่อนเขา
**ค่าใช้จ่ายสำหรับน้องที่จบ ม.3 และกำลังเรียนต่อ ม.ปลาย จะสมัครเรียน ระบบปรีดีกรีมีดังนี้*
- ค่าลงทะเบียนรายวิชา หน่วยกิตละ 50 บาท
- ค่าบำรุง 300 บาท
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้าเป็นนักศึกษา 500 บาท
- ค่าบัตรนักศึกษา 60 บาท
- ค่าขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา 300 บาท
- ค่าสมาชิกข่าวราม/เทอม 100 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้นเมื่อสมัครเรียนครั้งแรกจำนวน 2,460 บาท สำหรับการลงทะเบียน 24 หน่วยกิต และลดหลั่นลงตามจำนวนหน่วยกิตที่น้องลง เช่นกัน
[[ คณะที่ได้รับความนิยม 3 อันดับต้นๆคือ ]]
- คณะรัฐศาสตร์
- คณะบริหารธุรกิจ
- คณะนิติศาสตร์
คณะวิทยาศาสตร์มีแล็ป มีห้องปฎิบัติการพร้อมสรรพครบถ้วนไม่น้อยหน้าสถาบันอื่นๆ
- คณะที่พี่ก้องแนะนำ สำหรับน้องที่มีเวลาเข้าเรียนเต็มที่ และเหมาะกับน้องที่จบ ม.6 มาแล้วคือคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งคณะวิทยาศาตร์ จะเปิดสอน
- สาขาวิชาคณิตศาสตร์
- สาขาวิชาสถิติศาสตร์
- สาขาวิชาเคมี
- สาขาวิชาฟิสิกส์
- สาขาวิชาชีวะวิทยา
- สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
- สาขาวิชาการวิจัยดำเนินการ
- สาขาวิชาเทคโนโลยีพัสดุ
- สาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร
- สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเลคทรอนิคส์
- สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ
- สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
- สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร
- สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
สำหรับคณะวิทยาศาสตร์น้องจะต้องมีเวลาเรียน เพราะจะต้องเข้าห้องปฏิบัติการจริง มีการฝึกงาน ทำงานส่ง สัมมนา ด้วย ซึ่งจะทำให้น้องได้เป็นนักวิทยาศาสตร์อย่างมีคุณภาพเมื่อน้องจบออกไปรับใช้สังคม
อีกทั้งการเรียนคณะวิทยาศาสตร์ที่ สถาบันอื่น จะมีค่าลงทะเบียนเรียนที่แพงมาก แต่ที่รามของเรา ยังคงเอกลักษณ์ของรามเสมอมาและตลอดไป น้องต้องตัดสินใจว่า จะเรียนที่ค่าเทอมแพงหรือ เรียนที่ค่าเรียนถูก แต่ศักดิ์และสิทธิ์ แห่งปริญญาบัตรเท่ากัน และรับค่าแรงตามกฎหมายแรงงานที่เท่ากันเมื่อจบใหม่ แถมน้องไม่ต้องเครียดว่าจะถูกดรอปเรียนกลางทางเพราะไม่มีค่าเล่าเรียน
หลักการเรียนต้องมีเป้าหมายในอนาคต
- น้องจำไว้ว่า ถ้าน้องเลือกคณะที่เรียนง่าย ก็หมายความว่า คนอื่นก็เรียนได้ด้วย เมื่อคนอื่นก็เรียนได้ ก็หมายความว่า ในแต่ละปี มีบัณฑิต คณะนั้นๆจบออกมาจำนวนมาก เมื่อมีคนจบจำนวนมาก ก็หมายถึงการแย่งกันทำงาน ซึ่งตำแหน่งงานมีอยู่อย่างจำกัด
- ดังนั้น น้องต้องท่องไว้เสมอว่า เรียนง่าย ก็หางาน ยาก แต่ถ้าน้องเรียนยาก ก็จะหางานง่าย เพราะเรียนยาก คนเรียนน้อย และจบน้อย เมื่อจบน้อยแต่ความต้องการในตลาดแรงงานจึงมีมาก จึงประกันว่าน้องจบแล้วมีงานทำ และอีกกรณี ในคณะที่มีการฝึกงานจริง นั้นก็คือ การที่น้องได้มีโอกาสไปแสดงความสามารถให้นายจ้างเห็นไปในตัว น้องจงทำให้เต็มความสามารถ เพราะไม่แน่ว่า ที่ที่น้องไปฝึกงาน ก็อาจจะเป็นสถานที่ทำงานของน้องในอนาคตที่น้องจบไปก็เป็นได้ จึงขึ้นอยู่กับเป้าหมายน้องว่า จะเรียนเพื่อเป้าหมายในชีวิตอย่างไร
นอกจากนี้ยังมีคณะ เศรษฐศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ ก็เป็นอีก 2 คณะที่ จบแล้วมีอนาคตมีทางไป จึงขึ้นอยู่กับ จริตน้องแต่ละคนว่าตนเอง ถนัด รัก ชอบ หรือวางเป้าหมายชีวิตไว้อย่างไร พี่ก้อง เป็นเพียงผู้ชี้ แนวทางให้เห็นเท่านั้น
คณะศึกษาศาสตร์สำหรับน้องที่ต้องการอยากเป็นครู แม่พิมพ์พ่อพิมพ์ของชาติ
ส่วนการเรียนที่ราม
- เรามีห้องเรียนใหญ่โตโอ่อ่า ทั้งประจำคณะและเรียนรวม มีจอวงจรปิดถ่ายทอดไปทุกอาคารทุกห้องเรียนขณะที่อาจารย์บรรยาย
- มีห้องสมุดให้ค้นคว้า ทันสมัย
- มีศูนย์ปฎิการคอมพิวเตอร์ เรียนหนึ่งคนต่อหนึ่งเครื่อง
- มีเรียนทาง Electronics เลือกเวลาเรียนและเวลาสอบด้วยตัวเราเอง
- มีอาจารย์แนะแนว อาจารย์ที่ปรึกษา
- มีเรียน รด.
- มีห้องทดลองและปฏิบัติการที่ทันสมัย
- เพราะรามเราคือมหาวิทยาลัยแบบตลาดวิชา ที่คนเรียนสามารถเลือกหาได้ตามความถนัดของตนเอง เรามีทุกอย่างที่มหาวิทยาลัยปิดมี
- และเรามีอีกหลายอย่างที่มหาวิทยาลัยปิดไม่มี
- เรียนวันจันทร์ถึงศุกร์ ( ปกติ)
- มีบรรยากาศความเป็นพี่น้องที่แสนอบอุ่น
- มีกลุ่มกิจกรรมให้น้องเลือกได้มากมายตามชอบ
- มีตำราเรียนที่แสนถูก
- ค่าเรียนที่แสนถูก
- ไม่มีคุณภาพจริงไม่มีสิทธิ์สวมครุยวิทยฐานะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ถ้าคุณแน่ใจมีความมุ่งมั่น รามคำแหงให้โอกาสคุณทุกคนทุกเพศ ทุกวัย พิสูจน์ตัวเอง
สิ่งที่น้องพึงรู้ไว้
- การเรียนที่รามฯ ศักดิ์ศรีแห่งปริญญาบัตร เท่าเทียมกัน เมื่อจบการศึกษาแล้ว รับค่าสแรงขั้นต่ำตามกฎหมายแรงงานเท่ากัน
- แต่สิ่งที่ มหาวืทยาลัยรามคำแหงให้ได้แต่ที่อื่นให้ไม่ได้คือ ราม ให้โอกาสทางการศึกษา กับคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา อย่างเท่าเทียม เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียน ตามที่ตนเองถนัด รัก ชอบ หรือความใฝ่ฝัน รวมถึง อัตราค่าเล่าเรียนที่ ถูกมาก คือหน่วยกิตละ 25 บาทเท่านั้น สำหรับนักศึกษาปกติ และ หน่วยกิตละ 50 บาท สำหรับนักศึกษารายกระบวนวิชา หรือ Pre-Degree เพราะเราคือ ตลาดวิชา เตรียมทุกสิ่งพร้อมสรรพ สำหรับผู้ที่แสวงหามาเลือกสิ่งที่เหมาะสมด้วยตนเอง
ข้อสังเกต และขณะนี้ (25 เม.ย.59 ) ทาง ม.ราม ได้ปรับเปลี่ยนรหัส รายกระบวนวิชาใหม่ ให้น้องๆศึกษาให้เข้าใจให้ดีก่อนลงทะเบียนเรียน เช่น เดิม PS ก็จะเปลี่ยนเป็น POL ตามด้วยเลขรหัสชั้นปี เช่น POL 1100 ซึ่งเป็นวิชารัฐศาสตร์ทั่วไป รหัสเดิมคือ PS103 มี 3 หน่วยกิตเท่าเดิม
- พี่น้องของเราออกไปรับใช้สังคมอย่างมีคุณภาพทั้งหน่วยงานทางปกครองของรัฐ ศาล และหน่วยงานเอกชน ภายใต้คำขวัญ เปลวเทียนให้แสงรามคำแหงให้ทาง
หอประชุมพ่อขุน อยู่ที่ราม 1 ใช้เป็นที่รับสมัครนักศึกษาใหม่และใช้ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
รูปปั้นพ่อขุนศูนย์รวมใจลูกพ่อขุนทุกคน อยู่ที่ลานพ่อขุน ราม 1
ด้านหน้าตึกคณะศึกษาศาสตร์ ราม 1
ตึกคณะนิติศาสตร์ ราม 1
ตึกคณะมนุษย์ศาสตร์ราม 1
สำหรับนักศึกษา กศน.ที่ต้องการกวดวิชา หรือผู้ที่ต้องการเรียนต่อ กศน.
..............................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
เว็บไซต์ ม.ราม >>> http://www.ru.ac.th/
>>>> เช็คตารางสอบรายบุคคล (ก่อนสอบหนึ่งสัปดาห์ ที่นี่ ) <<<<
>>>> ตาราง ม.ร. 30 <<<<
>>> การรับนักศึกษาใหม่
>>>> ตรวจผลสอบนักศึกษาปริญญาตรีที่นี่<<< (ระบบเก่า)
>>> ตรวจผลสอบนักศึกษาปริญญาตรี (ระบบใหม่ ต้องใส่รหัสผ่าน)
>>>> ตรวจผลสอบนักศึกษษปริญญาโทที่นี่
>>> สมัครสมาชิกเว็บราม <<< (สมัครตรงนี้ก่อนค่อยเข้าเช็คเกรดระบบใหม่ )
>>>> เช็คตารางสอบรายบุคคล (ก่อนสอบหนึ่งสัปดาห์ ที่นี่ ) <<<<
>>>> ตาราง ม.ร. 30 <<<<
>>> การรับนักศึกษาใหม่
>>>> ตรวจผลสอบนักศึกษาปริญญาตรีที่นี่<<< (ระบบเก่า)
>>> ตรวจผลสอบนักศึกษาปริญญาตรี (ระบบใหม่ ต้องใส่รหัสผ่าน)
>>>> ตรวจผลสอบนักศึกษษปริญญาโทที่นี่
>>> สมัครสมาชิกเว็บราม <<< (สมัครตรงนี้ก่อนค่อยเข้าเช็คเกรดระบบใหม่ )
..................................................................................................................................................................
ขอให้น้องโชคดีและประสบความสำเร็จทุกคน
กังวาล ทองเนตร ( พี่ก้อง ) รัฐศาสตร์ ภาควิชาการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
คอมพิวเตอร์-กราฟฟิคดีไซน์-มัลติมิเดียส์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง