กังวาล ทองเนตร

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่คลังปัญญา Pohthaiblogspot.com

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

เรอแนสซองส์คืออะไร






ผลงานของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี่


  • เรอแนสซองส์ ( Renaissance) หมายถึงยุคของการฟื้นฟู หรือการเกิดใหม่ ทั้งด้านศิลปวิทยาการของยุโรป 
กล่าวคือเมื่ออาณาจักรโรมันล่มสลายลง ทำให้ศิลปวัฒนธรรมและความรู้ต่างๆในยุครุ่งเรืองของยุโรปถูกทำลายลงไปด้วย
เมื่อยุคมืดของยุโรปสิ้นสุดลงก็มีบรรดาเศรษฐีได้คิดรวบรวมและอุปถัมภ์ศิลปินขึ้นโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่อิตาลี
โดยนักวิชาการหลายคนเห็นว่า เรแนสซองส์ เป็นยิ่งกว่าการเกิดใหม่ เพราะเป็นทั้งการเชื่อมต่อยุคสมัยคือยุคกลางกับยุคสมัยใหม่เข้าด้วยกัน


ขบวนการเรแนสซองส์ได้เริ่มขึ้นที่อิตาลีก่อนประมาณ ค.ศ.1400

  • มีพ่อค้าชาวเวนิส เป็นเจ้าของกองเรือขนาดใหญ่มากถึง 300 ลำ และเรือที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 100 ตันอีก 3,000 ลำ เรือสำเภาอีก 45 ลำ มีฝีพาย 28,000 นาย ใช้ช่างไม้ต่อเรืออีก 6,000 นาย กองเรือของเขาออกค้าขายตามเมืองสำคัญ เช่น ฟลอเรนส์ เจนัว ปิซ่า และโรม 
และต่อมาเริ่มมีผู้คนสนใจเศษซากของความยิ่งใหญ่ในอดีต เหล่าบรรดา ขุนนางและพ่อค้าจึงหันมาสะสมของเก่าและสนับสนุนโครงการและเผยแพร่ความเจริญสมัยยุคคลาสสิคโบราณ
โดยตระกูล เมดิชี่
ได้ส่งเสริมศิลปินประจำถิ่นและจัดตั้งโครงการสร้างสิ่งใหม่ๆขึ้น

และมีศิลปินที่ร่วมทำงานอยู่ในพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ได้แก่

  • แบร์โทลโด ไมเคิล แองเจโล ลีโอนาร์โด ดาร์วินชี่ เป็นต้น
และ แวโรซีโอ ลอเรนโซ เดอ เมดิชี่ เป็นทั้ง กวี และคีตกวี จึงทำให้เหล่าศิลปินนิยมชมชอบเขาด้วย เพราะพวกเขาต้องการความเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง เรียกว่า ธรรมเนียมปัจเจกชนนิยม แต่ก็มีศิลปินส่วนหนึ่งที่รับจ้างให้กับพวกขุนนางและโบสถ์คริสต์


ซึ่งในยุคสมัยนี้การยึดถือลัทธิวีรคติ เริ่มเสื่อมลง และสิ่งที่กำลังจะมาแทนคือ อุดมคติสุภาพชน
ลัทธิวีรคติ >>> คลิกอ่านที่นี่


( Very perfect gentlemen ) หรือความนิยมวางมาดวางท่าทีให้เหมาะสม ซึ่งแนวคิดนี้มีอยู่ในหนังสือ สุภาพชน ( IL Cortigiano ) เขียนโดย บาลดาสซาร์ คาสตีญลีโอน เมื่อ ค.ศ. 1478-1529 จนได้รับความนิยม

บางส่วนของหนังสือ เช่น ผู้ที่กำเนิดในตระกูลขุนนาง ต้องมีมารยาทสุภาพเรียบร้อยทั้งกายใจ มีมาตรฐานและรสนิยม ขุนนางจะเติบโตขึ้นมากับ การฝึกอาวุธ กีฬา เต้นรำอย่างสง่างาม และการดนตรี รวมไปถึงเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาษาลาติน วรรณคดี ศิลปะต่างๆ

และยังระบุอีกว่าสตรีจำเป็นต่อสภาพแวดล้อมที่จะทำให้คนเป็นสุภาพบุรุษได้ เพราะสตรีทำให้เราเกิดความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน ไม่ว่าบุรุษนั้นจะมีสันดานหยาบช้าเพียงใดเมื่ออยู่ต่อหน้าสตรีเพศแล้วก็จะทำให้เกิดความรู้สึกที่เป็นสุภาพบุรุษขึ้นมาได้

เขายังกล่าวอีกว่า สตรีจึงควรจะฝึกฝนตัวเองให้พร้อมแก่บุรุษ เช่นการวางตัว การแต่งกาย กริยาท่าที ทั้งนี้เพื่อให้สามารถสนทนากับบุรุษได้อย่างเสมอกัน
สตรีจำเป็นต้องเรียนหนังสือ วรรณคดี ศิลปกรรม การบ้านการเมือง และรู้หลายภาษาอีกด้วย ฯลฯ

ศิลปินมากมายแข่งขันกันผลิตผลงาน รวมถึง ไมเคิล แองเจโล และ ดาร์วินชี่ด้วย ทั้งสองอยู่ที่ฟลอเรนส์และต่างมีความเชี่ยวชาญ ในการสื่อแนวคิดผ่านออกมาทางภาพได้จนเป็นที่ประจักษ์

จนทั้งสองกลายเป็นคู่แข่งกันในเวลาต่อมา




งานที่สำคัญของ ดาร์วินชี่ เช่น Virgin of the Rock,The Last supper ,The MONA Lisa เป็นต้น





Virgin of the Rock 

ส่วนแองเจโล เขาเชี่ยวชาญงานที่เป็นรูปตัวคน งานที่เลื่องชื่อของเขาคือ ภาพวาดในโบสถ์ชืองานว่า The Sistine Chapel ซึ่งมีรูปคนแทรกอยู่มากมายถึง 350 รูป แทบทุกช่องว่าที่เขาสามารถวาดมันลงไปได้




The Sistine Chapel ของแองเจโล



The Sistine Chapel

The Sistine Chapel

The Sistine Chapel 

  • สมัยเรแนสซองส์มีความเจริญถึง 200 ปี จึงเสื่อมลงเมื่อประมาณ ค.ศ.1550 ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งคือสงคราม โดยฝรั่งเศสได้บุกยึดอิตาลี เมื่อ ค.ศ. 1494 และได้นำคนภายนอกเข้ามายังอิตาลีและได้ทำลายดินแดนี้ให้ราบลงอีกครั้ง 
รวมไปถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจด้วยเพราะเศรษฐกิจของอิตาลียุคนี้จะเป็นแบบผูกขาดโดยชนชั้นกลางที่ค้าขายระหว่างยุโรปตะวันตกและการค้ากับโลกตะวันออก สิ้นสุดลง
  • เรแนสซองส์อาจสรุปได้ว่า เป็นขบวนการของพวกขุนนางที่มีความเชื่อว่าชนชั้นของตนมีวัฒนธรรมที่สั่งสมมานาน เป็นเรื่องของลัทธิที่มนุษย์นิยมในตัวมนุษย์ว่าเป็นสิ่งพิเศษ และนิยมสะสมศิลปินและผลงานไว้ในสังกัดของตนเอง เพื่อประดับบารมี รสนิยม ค่านิยมในยุคนั้นๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า เรแนสซองส์ เป็นยุคทองของศิลปินด้วยเช่นกันที่จะได้สร้างผลงานฝากไว้ให้กับโลกสืบมาจนวันนี้ 

ภาพด้านล่างทั้งหมดเป็นผลงานของ ลีโอนาร์โด ดาร์วินชี่





ช่วงชีวิตหนึ่งเขาได้แอบผ่าศพและวาดภาพทุกอณูที่เขาได้เห็นไว้ จนถูกกล่าวว่าเขาเป็นบ้า แต่ผลงานของเขากลับเป็นประโยชน์กับนักศึกษาแพทย์ในเวลาต่อมา




ดาร์วินชี่






แบบร่างอาวุธในจินตนาการที่ดาร์วินชี่ออกแบบร่างไว้





St.John the Baptist เชื่อกันว่านี่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของดาร์วินชี่




The Mona Lisa



โครงสร้างทางกายภาค ซึ่งต่อมาได้ถูกนำเข้าไปในการศึกษา




อ้างอิงจาก

Thank you friend blog >>[1] 2 ] 3 ] 4 ] 5 ] 6 ] 7 ] 8 ] 9 ] 10 ] 11 ] 12 ][13][14]



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น